เชื่อว่ามีสาว ๆ จำนวนไม่น้อยเคยมีประสบการณ์เปลี่ยนครีมใหม่แล้วสิวบุก หรือระคายเคืองผิว ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยตามมาว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นไม่ดี หรือเราแพ้ส่วนผสมตัวไหนกันนะ? แถมบางคนยังเปลี่ยนครีมใหม่หลายตัวพร้อมกันจนไม่รู้ว่าตัวเองแพ้ครีมตัวไหนกันแน่ TT ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะวันนี้ *Cosmenet จะพาทุกคนมาดู 4 วิธีทดสอบอาการแพ้ครีมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองกันค่าา~
อาการแพ้ครีม
- สิวขึ้นแบบไม่ทราบสาเหตุ : มีสิวเห่อขึ้นทันที หรือมีสิวขึ้นในบริเวณที่ไม่เคยขึ้นมาก่อนหลังจากเปลี่ยนครีมใหม่ อาจเป็นสัญญาณเตือนอาการแพ้ครีม หรือแพ้สารบางชนิดที่อยู่ในครีม แนะนำให้หยุดใช้ทันที
- รู้สึกแสบร้อนผิว : รู้สึกแสบร้อนผิว มีอาการคันยิบ ๆ มีผื่นขึ้น หรือผิวเปลี่ยนเป็นสีแดงร่วมด้วย อาจเกิดจากส่วนผสมบางชนิดในครีมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว เช่น แอลกอฮอล์, พาราเบน และน้ำหอม เป็นต้น
- มีอาการคัน หรือระคายเคืองผิว : มีอาการคันยุบยิบตามผิวหนังทันทีหลังจากใช้ครีมตัวใหม่ บางคนอาจมีผื่นแดง แสบ และคันร่วมด้วย
- มีผื่นขึ้นเป็นปื้น : สำหรับใครที่มีผื่นขึ้นเป็นปื้น ผิวหนังบวมแดง มีลักษณะเป็นตุ่มคันคล้ายลมพิษ และมักมีอาการคัน หรือรู้สึกแสบร้อนร่วมด้วย อาจมีสาเหตุมาจากการแพ้สารเคมีบางชนิดที่อยู่ในครีม เช่น น้ำหอม และพาราเบน เป็นต้น
- ผิวแห้งลอกเป็นขุย : มีอาการผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ และลอกเป็นขุยแบบไม่เคยเป็นมาก่อนหลังทาใช้ครีมตัวใหม่ อาจมีสาเหตุมาจากผลิตภัณฑ์ตัวนั้นมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว ทำให้ผิวแห้งกร้านและลอกเป็นขุยนั่นเองค่ะ
- มีตุ่มขาวหรือตุ่มแดงเล็ก ๆ ขึ้นบนผิว : มีตุ่มขาวหรือตุ่มแดงเล็ก ๆ ขึ้นบนใบหน้า ซึ่งก็จัดเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนแพ้ครีมกันแดดเช่นกัน โดยส่วนใหญ่มักจะมีสาเหตุจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Mineral Oil หรือมีสารไขมันในปริมาณที่มากเกินไปจนเกิดการอุดตันรูขุมขน และเกิดเป็นตุ่มเล็ก ๆ ตามมาได้
- ผิวบาง และไวต่อแสง : รู้สึกผิวหน้ามีความไวต่อแสง โดยเฉพาะเวลาโดนแสงแดดจัด ผิวหน้าจะเกิดการระคายเคือง อาการผิวแดง รู้สึกแสบร้อนเร็วกว่าปกติ และผิวหมองคล้ำง่าย ซึ่งเกิดจากการแพ้ครีมที่ส่วนผสมของน้ำหอมหรือสารที่มีฤทธิ์เป็นกรด จึงส่งผลให้ผิวบางลงและไวต่อแสง
4 วิธีทดสอบอาการแพ้ครีม
1. ทดสอบอาการแพ้ครีมใต้ท้องแขนหรือข้อพับ
เริ่มต้นด้วยวิธีทดสอบอาการแพ้ครีมที่ง่ายที่สุด นั่นก็คือ การทดสอบบริเวณ “ใต้ท้องแขนหรือข้อพับ” เพราะเป็นผิวส่วนที่มีความบอบบางใกล้เคียงกับผิวหน้า โดยทาครีมที่ต้องการทดสอบไว้ที่ใต้ท้องแขนด้านในหรือข้อพับแขนทาขนาดเท่าเหรียญ 10 บาท ทาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ติดต่อกันประมาณ 7-10 วัน หากมีอาการระคายเคืองผิว มีผื่นแดง ตุ่มนูน คัน หรือผิวแห้งลอกเป็นขุย แสดงว่าอาจจะแพ้ครีมตัวนั้น จึงไม่ควรนำมาใช้กับผิวหน้า
2. ทดสอบอาการแพ้ที่หลังใบหู
เขยิบขึ้นมาใกล้ใบหน้าอีกนิดทดสอบการแพ้ที่บริเวณ “หลังใบหู” ซึ่งเป็นส่วนที่มีความบอบบางเทียงเท่ากับผิวหน้าเลยค่ะ แต่เป็นจุดมักไม่ค่อยมีคนสังเกต หากเกิดอาการแพ้จึงมองเห็นได้ยากกว่าบริเวณใบหน้า โดยนำครีมที่ต้องการทดสอบมาทาที่หลังใบหูติดต่อกัน 3 วัน หรือถ้าต้องการความชัวร์แนะนำให้ทดสอบ 7 วันไปเลยค่ะ หากไม่มีอาการระคายเคือง คัน แสบร้อน หรือมีผื่นขึ้นบนผิวก็สามารถนำครีมตัวนั้นมาใช้กับผิวหน้าได้เลยค่าา
3. ทดสอบอาการแพ้ครีมที่บริเวณกราม
สำหรับใครที่ต้องการความชัวร์ที่สุด แนะนำให้ทดสอบอาการแพ้ครีมที่บริเวณกรามเลยค่ะ เพราะเป็นจุดที่อยู่บนใบหน้า หากเกิดอาการแพ้จะสังเกตเห็นได้ชัดกว่าส่วนอื่น โดยทาครีมบริเวณช่วงกราม ติดต่อกัน 3-10 วัน หากมีอาการระคายเคือง หรือมีผื่นขึ้นบริเวณที่ทำการทดสอบ ควรหยุดใช้ทันที และไม่ควรนำมาใช้กับผิวหน้า
4. ทดสอบอาการแพ้ครีมโดยแพทย์ผิวหนัง
วิธีทดสอบอาการแพ้ครีมที่แม่นยำที่สุดคือการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง ซึ่งเรียกว่า Skin test หรือ Patch test โดยแพทย์จะนำครีมต้องสงสัยผสมลงในพลาสเตอร์หรือแผ่นแปะที่เตรียมไว้ จากนั้นก็จะนำมาแปะไว้ที่บริเวณแผ่นหลังของผู้ทดสอบ ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน แล้วนัดติดตามผลอีกครั้ง ซึ่งการทดสอบแบบนี้จะทำให้รู้อย่างละเอียดเลยค่ะว่าเราแพ้สารตัวไหนบ้างในครีม
ใครมีแพลนจะเปลี่ยนครีมใหม่แต่ไม่อยากเสี่ยงหน้าพัง ลองนำ 4 วิธีทดสอบอาการแพ้ครีมไปทำตามกันได้เลยนะคะ ถ้าทดสอบแล้วไม่มีอาการแพ้ หรือระคายเคืองผิวก็สามารถใช้กับผิวหน้าได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล
ส่วนใครที่อยากอัปเดตเทรนด์สกินแคร์ใหม่ ๆ ก็สามารถอ่านข้อมูลสกินแคร์และรีวิวจากผู้ใช้จริงเพิ่มเติมได้ที่เว็บ *Cosmenet.in.th กันได้เลยค่าา