-----------------------
*Cosmenet Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
-----------------------
อาการของก้อนที่บ่า Office Syndrome เกิดจากอะไร?
อาการของก้อนที่บ่า เกิดจากการเกร็งกล้ามเนื้อที่สะสมในช่วงเวลาที่นานเกินไป ไม่ว่าจะยืนนาน นั่งนาน ซึ่งทำให้เกิดความแข็งตัวของกล้ามเนื้อจนเป็นก้อนที่สัมผัสได้เหมือนหลังเต่าบริเวณบ่า หรือระหว่างคอกับหัวไหล่นั่นเอง
โดยอาการก้อนที่บ่า มักจะเริ่มจากความรู้สึกตึงหรือเจ็บที่บริเวณบ่าและคอ เมื่อใช้กล้ามเนื้อในบริเวณนั้นเป็นเวลานานโดยไม่มีการยืดกล้ามเนื้อหรือพัก แถมก้อนที่บ่าอาจส่งผลให้เคลื่อนไหวลำบาก หรือติดขัดกว่าที่เคย โดยผู้ที่มีอาการนี้อาจรู้สึกว่าความยืดหยุ่นของบ่าลดลง มีการจำกัดการเคลื่อนไหว และเมื่อปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดเรื้อรังขึ้นได้นั่นเองค่ะ
สาเหตุของก้อนที่บ่าใน Office Syndrome มีอะไรบ้าง?
Office Syndrome เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันในสภาพแวดล้อมการทำงานในออฟฟิศที่ไม่เหมาะสม ทั้งในเรื่องของท่าทางการนั่งทำงาน การจัดวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือการใช้เมาส์และคีย์บอร์ดเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียดมากกว่าปกติ
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด ก้อนที่บ่า ก็ได้แก่
- การนั่งทำงานนานเกินไป: สาเหตุหลักของทุกอาการ Office Syndrome รวมถึงสาเหตุหลักของก้อนที่บ่า เกิดจากการนั่งทำงานโดยไม่ขยับร่างกายหรือปรับเปลี่ยนท่าทางทำให้กล้ามเนื้อบ่าและไหล่เกิดการเกร็งและสะสมความตึงเครียดได้
- ท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง: การนั่งทำงานในท่าทางที่ผิดเช่น การนั่งหลังค่อม นั่งห่อไหล่ การก้มคอ หรือการยกบ่าสูงเกินไป รวมถึงการหักข้อมือในการพิมพ์งานเป็นเวลานาน ๆ หรือการนั่งไม่ชิดพนักพิง ก็ทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนักมากกว่าที่ควรได้ค่ะ
- การจัดวางโต๊ะทำงานที่ไม่เหมาะสม: แน่นอนว่าการใช้โต๊ะทำงานที่สูงหรือต่ำเกินไป หรือการวางหน้าจอในระดับที่ไม่พอดี การนั่งเก้าอี้ที่ไม่มีที่พักแขน หรือพนักพิงที่สูงพอจะซัพพอร์ตคอ บ่า ไหล่ ก็ส่งผลให้ร่างกายต้องปรับตัวในลักษณะที่ไม่เหมาะสมจนทำให้เกิดการเกร็งกล้ามเนื้อผิดปกติ และทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียดตลอดทั้งวันได้ด้วย
- ขาดการยืดกล้ามเนื้อ: การไม่ให้เวลากับการยืดหรือพักกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดความแข็งตัวของกล้ามเนื้อได้ง่ายมาก ๆ ไม่ใช่แค่คนที่ออกกำลังกายนะคะที่ต้องยืดกล้ามเนื้อ พนักงานออฟฟิศอย่างเรา ๆ ที่นั่งทำงานทั้งวันก็ต้องหาเวลายืดเส้นยืดสายอย่างเหมาะสม เพราะเมื่อยืดกล้ามเนื้อไม่พอหรือไม่ยืดกล้ามเนื้อเลย ก็จะส่งผลให้อาการ officie syndrome รุนแรงขึ้น และอาจปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังหรือหรือกล้ามเนื้อและเส้นประสาทบางส่วนอักเสบได้นั่นเอง
ผลกระทบของก้อนที่บ่าจาก Office Syndrome มีอะไรบ้าง?
ผลกระทบที่ตามมาเมื่อเกิด ก้อนที่บ่า ขึ้น บอกเลยว่าแม้จะไม่ร้ายแรงถึงชีวิตแต่สร้างความรำคาญและสร้างความไม่สบายตัวได้ไม่น้อยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น..
- การปวดศีรษะ: ก้อนที่บ่า ที่เกิดจากการตึงเครียดจะส่งผลเกี่ยวข้องกับอาการปวดศีรษะได้ เพราะกล้ามเนื้อบริเวณคอและบ่าทำงานมากเกินไป ใครมีก้อนที่บ่าแล้วปวดหัวบ่อย ๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจค่ะ เขาเกี่ยวข้องกันเป็นลูกโซ่
- ความไม่สบายตัวและปวดเรื้อรัง: ตราบใดที่ก้อนที่บ่านี้ยังไม่หาย จะรู้สึกติดขัด ไม่สบายตัว และรู้สึกตัวตึงไม่ยืดหยุ่น ยิ่งทำให้ปวดกล้ามเนื้อได้บ่อยและนานกว่าเดิมด้วย บางทีคือปวดจนเป็นไมเกรนหรือปวดจนไม่อยากยกแขนทำอะไรเลยก็มีค่ะ
- การนอนไม่หลับ: แม้จะไม่ได้มีส่วนโดยตรง แต่สำหรับผู้ที่มีก้อนที่บ่าเป็นระยะเวลานาน กล้ามเนื้อไม่ได้ยืดอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดปัญหาปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง นอนท่าไหนก็ไม่สบาย จนสุดท้ายเกิดภาวะนอนไม่หลับได้อีกด้วย
- บุคลิกภาพไม่ดี: ก้อนที่บ่าทำให้ ช่วงบ่า คอ และไหล่ของเรา ดูตันและดูงุ้มกว่าปกติ พอใส่เสื้อผ้าก็ทรงไม่สวย เห็นเป็นก้อน ๆ และดูเป็นคนหลังค่อมมากกว่าปกติเพราะกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดจากทั้งคอ บ่า และหลังส่วนบนนั่นเอง
การป้องกันและบรรเทาอาการก้อนที่บ่า
แน่นอนว่า “ก้อนที่บ่า” สามารถบรรเทาอาการ และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้ ดังนี้เลยค่าา
1. ปรับท่านั่งให้ถูกต้อง
จุดเริ่มต้นง่าย ๆ ของคนนั่งนาน จะต้องนั่งในท่าทางที่ถูกต้อง
- หลังตรงพิงกับพนักเก้าอี้
- วางเท้าให้สัมผัสพื้นทั้งสองข้าง
- วางแขนบนโต๊ะในลักษณะที่สบาย
- ปรับระดับหน้าจอให้อยู่ในระดับสายตา
ใครนั่งผิดไปจากนี้ปรับด่วนเลยนะคะ แก็ทเจตสำคัญอย่างหมอนรองก้น แท่นรองเท้า ที่รองโน๊ตบุ้คให้พอดีระดับสายตา หรือโต๊ะวางคอม เก้าอี้ใหม่ และแผ่นรองหลังต้องมาแล้วน้าาา
2. ยืดกล้ามเนื้อและพักเป็นระยะ
ท่ายืดกล้ามเนื้อง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกพักเที่ยงและหลังเลิกงาน ได้แก่
- ท่ายืดคอและบ่า
- การหมุนไหล่ไปข้างหน้าและข้างหลัง
- การเอียงศีรษะไปด้านข้างสลับทั้งสองข้าง
และแน่นอนว่า เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อบ่าเกิดการเกร็ง และเป็นก้อนที่บ่าซ้ำสอง ควรลุกขึ้นและยืดกล้ามเนื้อทุกๆ 1-2 ชั่วโมง และหมั่นทำท่ายืดเส้นด้านบน ใครกลัวลืม ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เลยว่าต้องลุกมายืดเส้นยืดสายด้วยนะะ
3. การนวดบรรเทา
การนวดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อบ่าและช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากก้อนที่บ่าได้ ไม่ว่าจะเป็น
- การนวดบำบัดจากผู้เชี่ยวชาญ
- การนวดด้วยคลื่นไฟฟ้า
- การนวดกดจุด
- การนวดแบบยืดกล้ามเนื้อ
- การนวดแผนไทย
- การกายภาพบำบัด
การนวดมีประโยชน์กับร่างกายพอสมควรเลย โดยเฉพาะชาวออฟฟิศ ทั้งได้คลายกล้ามเนื้อและยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วย โดยการนวดแก้ก้อนที่บ่าก็มีหลายแบบ สามารถเลือกและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนนวดได้เลย เลือกที่ ๆ ได้รับการรับรองตามมาตรฐานกันด้วยน้าา จะได้นวดได้อย่างผ่อนคลายค่า
4. การฝังเข็ม
การฝังเข็มเป็นอีกศาสตร์ที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ด้วยการใช้เข็มเล็ก ๆ ฝังไปตามจุดพลังงานของร่างกาย (จุดเส้นลมปราณ) ที่มีความเกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อและเส้นประสาทบริเวณบ่าและไหล่ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของพลังงานและเลือด ทำให้การอักเสบ การเกร็งและตึง รวมถึงอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อจะได้ลดลง การฝังเข็มยังช่วยปรับสมดุลของระบบในร่างกายด้วย ใครที่มีก้อนที่บ่าแล้วรู้สึกว่านวดแล้วไม่ดีขึ้น การฝังเข็มก็เป็นอีกวิธีที่อาจจะตอบโจทย์ได้นะคะ
5. การออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
และวิธีสุดท้ายก็คือกลับมาสู่จุดสามัญอย่างการออกกำลังกายค่ะ บอกเลยว่าการออกกำลังกายที่เน้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อบ่าและไหล่ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันการเกิดก้อนที่บ่าได้ ทั้งการยกดัมเบลเบา ๆ การทำท่าโยคะเพื่อยืดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อ ทำให้สามารถรับน้ำหนักและแรงกดได้ดียิ่งขึ้น เกิดก้อนที่บ่าและอาการออฟฟิศซินโดรมได้ยากขึ้น แต่ข้อนี้ก็ต้องทำควบคู่ไปกับการนั่งอย่างถูกต้อง ไม่นั่งนาน และยืดเส้นยืดสายด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นเจ้าก้อนที่บ่าก็จะกลับมาเยือนได้อีกก
เป็นยังไงเอ่ย ก้อนที่บ่า อาการที่ไม่รุนแรงแต่สร้างความรำคาญ ความเจ็บปวด และทำให้ความมั่นใจในการแต่งตัวลดฮวบแบบนี้ รีบรักษาเพื่อสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีในระยะยาวจะดีกว่านะคะ เพราะการดูแลร่างกายให้แข็งแรงและทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันอาการ Office Syndrome และก้อนที่บ่าได้อย่างดีที่สุด ใครอ่านบทความนี้แล้วนั่งผิดท่าอยู่ หรือปวดคอปวดบ่า ลุกไปยืดเส้นยืดสายกันด่วน ๆ เลยน้าา เตือนด้วยความหวังดีและความเป็นห่วงจาก *Cosmenet ค่าา :D
-----------------------
*Cosmenet Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
-----------------------
ใครสงสัยว่าตัวเองจะเป็น Office Syndrome แบบไม่รู้ตัว ต้องอ่านนี่เพิ่ม!