อย่าเพิ่งดื่มมัทฉะตามกระแส ถ้ายังไม่รู้ข้อควรระวัง หรือโทษของชาเขียวมัทฉะ ต้องยอมรับเลยค่ะว่าตอนนี้กระแสการดื่มมัทฉะกำลังฟีเวอร์ขั้นสุด เรียกได้ว่าถูกใจทั้งสายเฮลตี้และกลุ่มคนที่มองหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเพื่อทดแทนการดื่มกาแฟ แต่เหรียญก็มักจะมีสองด้านเสมอ เมื่อมีประโยชน์ก็ย่อมมีโทษ เช่นเดียวกับการดื่มมัทฉะ ซึ่งหลายคนอาจจะรู้ข้อดีกันไปแล้ว วันนี้ Cosmenet* เลยจะพาทุกคนมารู้จะโทษของชาเขียวมัทฉะกันค่าา~
ดื่มผิดชีวิตเปลี่ยน 6 ผลเสียของมัทฉะที่ต้องรู้ก่อนดื่ม
1. ดื่มมัทฉะผสมกับนมวัว

สำหรับคนที่เข้าวงการมัทฉะใหม่ ๆ การดื่มเพียวมัทฉะอาจเป็นเรื่องยากเพราะทั้งรสชาติขม ฝาด และมีกลิ่นที่ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ การดื่มมัทฉะผสมนมวัวอาจทำให้ดื่มได้ง่ายขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การดื่มมัทฉะผสมกับนมวัวจะไปลดประโยชน์ของมัทฉะ เนื่องจากในนมวัวมีโปรตีนที่จะไปจับตัวกับสารคาเทชิน (Catechins) ซึ่งเป็นสารสำคัญในมัทฉะที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และช่วยเรื่องการเผาผลาญ ทางออกสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการสามารถเปลี่ยนจากนมวัวเป็นนมข้าวโอ๊ต นมอัลมอนด์ หรือนมพิสตาชิโอแทนค่ะ ทีนี้ก็จะได้ทั้งรสชาติที่อร่อยดื่มง่ายแถมได้รับประโยชน์แบบเต็ม ๆ นั้นเองค่ะ
2. มัทฉะก่อให้เกิดนิ่วในไต?
ในมัทฉะมีสารตัวหนึ่งที่เรียกว่า ออกซาเลต (oxalate) ที่สูง เป็นสารที่ยับยั้งการดูดซึมแคลเซียม ซึ่งส่งผลให้ระดับแคลเซียมในปัสสาวะเพิ่มขึ้น ทำให้ไตทำงานหนักและสามารถก่อให้เกิดนิ่วในไตได้นั้นเอง ดังนั้นควรดื่มมัทฉะในปริมาณที่พอดี ดื่ม 1-2 แก้วต่อวัน ก็จะได้รับคุณประโยชน์จากมัทฉะและไม่เสี่ยงต่อผลข้างเคียงด้วยค่ะ
3. รบกวนการนอนหลับ
มัทฉะมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าชาเขียวประเภทอื่น ๆ เพราะฉะนั้นการดื่มมัทฉะมากเกินไปอาจทำให้รู้สึกกระวนกระวายและวิตกกังวลได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความไวต่อคาเฟอีน ด้วยเหตุจึงไม่ควรดื่มมัทฉะเกิน 2 แก้วต่อวัน (474 มิลลิลิตร) และไม่ควรดื่มในช่วงเวลาก่อนนอน เนื่องจากคาเฟอีนจะคงอยู่ในร่างกายนานถึง 5-6 ชั่วโมง ซึ่งอาจรบกวนการนอนหลับได้นั่นเองค่ะ
4. ต้นเหตุของอาการท้องผูก
หนึ่งในข้อดีของการดื่มมัทฉะคือ ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น แต่ก็ยังมีหลายคนที่ดื่มมัทฉะแล้วท้องผูก โดยมีสาเหตุมาจากสารแทนนินในมัทฉะมีฤทธิ์ในการหดตัวของลำไส้ ทำให้ลำไส้บีบตัวน้อยลง ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ช้าลง และเกิดอาการท้องผูกตามมาได้
5. อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ
คาเฟอีนในมัทฉะทำหน้าที่เหมือนยาขับปัสสาวะชนิดหนึ่ง โดยลดการดูดน้ำกลับตอนผ่านเข้าไปในไต ทำให้ไตขับน้ำออกมาเยอะขึ้น จึงทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น ซึ่งอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ และนำไปสู่ภาวะขาดน้ำในที่สุด
6. ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง
สำหรับผู้ที่ที่เป็นโรคโลหิตจางหรือผู้ที่มีแนวโน้มขาดธาตุเหล็ก การบริโภคมัทฉะมากเกินไปอาจทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นได้ เนื่องจากในมัทฉะมีสารแทนนิน และ EGCG ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นตัวยับยั่งการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย
ใครบ้างที่ไม่ควรดื่มมัทฉะ

- ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง : คาเฟอีนในมัทฉะจะกระตุ้นการหลั่งอะดรีนาลีน ทำให้หัวใจทำงานเพิ่มขึ้นและทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นได้
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร : มัทฉะจัดอยู่ในกลุ่มเครื่องดื่มที่เพิ่มการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจก่อให้เกิดกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหาร ลำไส้แปรปรวน หรืออาจทำให้อาการของโรคกระเพาะอาหารแย่ลงได้
- ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง : ในมัทฉะมีสารแทนนิน และ EGCG ในปริมาณสูง ซึ่งเป็นตัวยับยั่งการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย ซึ่งการดื่มมัทฉะในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจทำให้อาการของโรคแย่ลงได้
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต : ในมัทฉะมีองค์ประกอบของฟลูออไรด์ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจส่งผลให้ไตเสียหาย ซึ่งนำไปสู่โรคไตเรื้อรัง หรืออาจทำให้ค่าไตแย่ลงได้
- คุณแม่ตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร : มัทฉะมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ในระดับปานกลาง จึงไม่เป็นอันตรายต่อแม่และทารกในครรภ์ แต่อย่างไรก็ตามต้องควบคุมปริมาณในการดื่มอย่างเคร่งครัด เพราะในมัทฉะมีคาเฟอีนและคาเทชินซึ่งอาจเป็นอันตรายได้หากรับประทานในปริมาณมาก
ถึงแม้จะเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การดื่มมัทฉะในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจจะให้โทษได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องกำหนดปริมาณในการดื่มต่อวัน โดยไม่ควรเกินวันละ 2 แก้วต่อวัน หรือ 474 มิลลิลิตรนั่นเองค่าาา~
-----------------------
*Cosmenet Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
-----------------------
อ่านคอนเทนต์การบำรุงผิวอื่น ๆ เพิ่มเติม