Noona
Noona*
(97 รีวิว)
Bright Complete Anti Acne Booster Serum
GARNIER
Bright Complete Anti Acne Booster Serum
Garnier Complete Anti Acne Booster Serum เป็นเซรั่มลดรอยสิวจาก Ganier ที่เราว่าค่อนข้างโอเค และสมราคามากๆ ตัวหนึ่งค่ะ ส่วนตัวประทับใจที่เป็นเซรั่มเนื้อบางเบา ซึมซาบง่าย ไม่มีกลิ่นไม่มีสีที่ทำให้ระคายเคือง ส่วนของประสิทธิภาพเค้าเคลมว่า ลดเลือนรอยสิวได้อย่างติดสปีด ด้วยส่วนผสมตัวจึ้งๆ สี่ตัวได้แก่ Salicylic acid ( BHA ) ช่วยเรื่องการขจัดผิวหนังชั้นนอก น้ำมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรก ลดโอกาสการอุดตันของผิว Vitamin C ตัวบูสต์ผิวให้กระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย รวมถึง AHA ขจัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวดูกระจ่างใส รวมทั้งลดเลือนจุดด่างดำ และเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิว และตัวสุดท้ายอย่าง Niacinamide ตัวเด็ดที่ช่วยปลอบผิวเราจากอาการอักเสบใดๆ แค่ส่วนผสมก็น่าลองแล้วเนาะ เราใช้เซรั่มตัวนี้ควบคู่กับเจลแต้มสิว ค้นพบว่า ค่อนข้างเวิร์ก ตัวสิวที่บวม (ในรูปซ้ายมือ) ยุบลง (แบบรูปขวา) เมื่อใช้ผ่านไปครบ 10 วัน ในส่วนของรอยดำไม่ได้ลดลงมากขนาดนั้น แต่ก็ทำได้ดีถ้าเทียบกับตัวอื่นๆ ในท้องตลาดที่เราเคยลอง อ่านรายละเอียดราคา มีให้เลือกหลายไซส์ ซึ่งมีทั้งขวดเล็กและแบบซองพกพาสะดวก หาซื้อง่าย ถ้าใครไม่เคยลองก็อยากป้ายยาแบบซองก่อน รับรองว่าติดใจแน่นอนค่า
more
Bright Complete Vitamin C Ampoule Serum
GARNIER
Bright Complete Vitamin C Ampoule Serum
ต้องขอขอบคุณ cosme*net อีกครั้งนะคะ ที่มีของเล่นมาแจกกันตลอดเลย รอบนี้ตัวนี้ถูกใจใช่เลยมาก บอกก่อนว่าช่วงนี้ค่อนข้างจะ WFH สลับกับ On-Site ดังนั้นผิวหน้าเราจะพังมากเพราะสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย แถมมีสิวขึ้นเยอะมากบริเวณแมสก์ (เศร้าจังค่ะ ใครมีไอเทมรักษาสิวรอบคางดี ๆ มากระซิบกันหน่อยนะ) เข้าเรื่องเลยดีกว่า รอบนี้ ผลิตภัณฑ์ที่เราได้รับมาก็คือ รีวิว การ์นิเย่ แอมพูลเซรั่ม ที่ทางแบรนด์เรียกว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด แอมพลูเข้มข้นทรงประสิทธิภาพ 3% วิตามินซี^ และไนอาซินาไมด์ ซึมลึก* ตรงเข้าจัดการปัญหาฝ้าแดด¹ จุดด่างดำ และรอยดำใต้ตาอย่างแม่นยำ เห็นผลจริงใน 6 วัน+ โอ้ว คำเคลมคือแบบน่าสนใจมาก ใต้ตาดำ เอย จุดด่างดำ เอย ปัญหาคาใจเรามานานแล้ววว มาจัดการที! พอได้รับ การ์นิเย่ แอมพูลเซรั่ม มา บอกตรงๆ แอบตื่นเต้นนะ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มาในรูปแบบแผงแคปซูลบรรจุแอมพูล เหมาะมากสำหรับคนขี้ลืมหรือกะปริมาณการใช้ไม่ถูก ก็แกะทีละแผง หมดกล่องก็ครบสัปดาห์ พร้อมแล้วสำหรับการวัดผลลัพธ์ทันที และแน่นอนว่าสีสันเหลืองอมส้มสุดสดใสของการ์นิเย่ แอมพูลเซรั่ม ตั้งไว้บนโตีะเครื่องแป้งยังไงก็เห็น ไม่ลืมทาแน่นอน สเตปต่อมาก่อนการใช้งานจริงเราก็รีบศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ก็รีบพลิกอ่านรอบๆ กล่อง ทางแบรนด์เค้าชูสรรพคุณว่าช่วยบรรเทาพวก ฝ้าแดดลึกให้แลดูจางลงได้ใน 6 วัน รวมถึงผิวหมองคล้ำดูกระจ่างใสด้วย แต่ก็เข้าใจว่า ปัญหาผิวหน้าเหล่านี้มันถูกสะสมมานานก็น่าจะต้องใช้เวลา เลยไม่ได้คาดหวังขนาดนั้น แต่! ผลลัพธ์กลับเกินคาด ก่อนถึงผลลัพธ์ ขอแวะไปที่เนื้อสัมผัสสักนิด อย่างที่เราเคยพอทราบมาว่า แอมพูล ถ้าเรียกง่ายๆ ก็เป็นเซรั่มที่เข้มข้นแต่เนื้อบางเบา ตัวนี้ก็เช่นกันค่ะ ตอนหยดบนนิ้วรู้สึกเค้าเข้มข้น จนเกือบจะหนืด แต่ตอนเกลี่ยกลับเกลี่ยง่ายมาก หนืดน้อยมากเมื่อเทียบกับตัวการ์นิเย่ ไบรท์คอมพลีท เซรั่มตัวเก่าที่พอมาเกลี่ยเทียบกันก็เห็นชัดเลยว่า ฝั่งเซรั่มมีเนื้อเซรั่มเกาะบนผิวมากกว่า ในขณะที่ฝั่งแอมพูล เซรั่มดูซึมซาบกับผิวไปแล้วนั่นเองค่ะ ซึ่งตอนทาบนผิวหน้าตรง ๆ ก็รู้สึกนะว่าเค้าเข้มข้นและเนื้อแน่น แต่เป็นความแน่นที่ลูบไปตรงไหนก็ซึมลงผิวไปได้อย่างรวดเร็ว แทนที่จะแต้มแค่จุดริ้วรอยดำสิวตรงคาง และรอยคล้ำใต้ตา นี่ก็เลยทาลูบไปทั่วทั้งหน้า ก่อนจะตามด้วยครีมหรือ sleeping mask ตาม routine ปกติของเราค่ะ ที่ชอบอีกอย่างคือกลิ่นอมเปรี้ยวสไตล์ CITRUS ของ การ์นิเย่ แอมพูลเซรั่ม ให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย ใช้ตอนนอนมีกลิ่นหอมๆ บนหน้า มันดีมากกก ผลลัพธ์จากการใช้งาน 6 วันตามเคลม(มีหนึ่งวันแอบลืมทาเพราะ WFH) พบว่าผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดของเราคือรอยดำของสิวตรงคางที่วงเอาไว้จางลงค่ะทุกคน! อันนี้ถ่ายแบบล้างหน้าเสร็จของแต่ละวันหลังจากใช้ การ์นิเย่ แอมพูลเซรั่ม แล้ว ในส่วนของใต้ตาและฝ้าแดด คิดว่าอาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ และคอย monitor อย่างละเอียด อาจเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนค่ะ แต่โดยรวมรู้สึกว่าผิวสดชื่นขึ้น ไม่แห้งกร้าน ส่วนตัวเราชอบใช้แอมพูล ตามด้วย เซรั่ม และ NIGHT CREAM หรือ Sleeping Mask ตื่นมาผิวสดชื่นเหมือนคนนอนเต็มอิ่ม( แม้จะนอนแค่สี่ชั่วโมง ) โดยสรุปการใช้งาน การ์นิเย่ แอมพูลเซรั่ม ถือว่าเป็นแอมพูลตัว starter ที่ดีมากๆ ตัวหนึ่งสำหรับเรา ใช้งานง่าย ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างพึงพอใจ ส่วนตัวคิดว่าอยากให้ทำเป็นขวดจริงจังด้วย เพราะจะได้มีทั้งแบบขวดอยู่บ้านและแบบกล่องสำหรับพกพา ที่ชอบอีกอย่างคือราคาที่กำลังดีเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ถ้าใครไม่ได้แพ้พวกวิตซีน่าลองใช้ค่ะตัวนี้
more
UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++
Biore
UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++
ปกติเราใช้กันแดด biore แบบหลอดใหญ่ทาตัวเวลาปกติอยู่แล้วเนื่องจากเนื้อเค้าจะค่อนข้างซึมไวไม่เหนอะหนะ สำหรับ biore uv aqua rich watery essence ก็เช่นกัน เราชอบความเป็นเนื้อกึ่งๆ จะเจลหน่อย ซึมไว ไม่มีกลิ่นน้ำหอมกวนใจ ทาแล้วซึมวาบเข้าผิวหน้าเลย ซึ่งก็น่าจะดีสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่ชอบอีกอย่างคือไม่เปลือง บีบมานิดนึงเกลี่ยได้เยอะมาก แป๊บเดียวก็ทั่วหน้าแล้ว อ่านสรรพคุณว่าเค้าเป็นสูตรปกป้องสูงสุดได้อย่างทั่วถึงแม้ร่องผิวลึก พอมาใช้จริงก็รู้สึกว่าไม่เกินคำเคลม เพราะเนื้อซึมได้ดี ไม่ตกรูุขุมขนหรือร่องผิวจริง ๆ แห้งไว ทาแป้งต่อได้ อย่างเดียวที่ติดคือพอมันซึมง่ายมาก รู้สึกคล้าย ๆ มันไม่ติดผิว ตอนเราว่ายน้ำเราเลยต้องใช้เนื้อแบบหนัก ๆ พอกทับบนผิวอีกทีเพื่อความมั่นใจในประสิทธิภาพกันแดด แต่ถ้าใช้ในวันธรรมดาทั่ว ๆ ไป ถือว่าโอเคเลย หลังจากใช้มาในวันทำงานถือว่าเป็นกันแดดที่โอเค หลอดที่ได้รับเป็นหลอดเล็ก ๆ พกพาง่ายอีกด้วยค่ะ
more
SMOOTHING MATTE POWDER SPF20 PA++
BSC
SMOOTHING MATTE POWDER SPF20 PA++
สวัสดีสาว ๆ cosme*net ทุกคนค่ะ ได้ฤกษ์มารีวิวแป้งตลับนี้แล้ว โดยแป้งตลับนี้เป็นของแบรนด์ BSC เช่นเคยค่ะ อย่างที่เคยเห็นเรารีวิวตัวแป้งฝุ่นที่เป็นลายคุมะมง นางก็ดีอยู่นะ เป็นแป้งเนื้อเบา ๆ พอมาเป็นแป้งตลับอันนี้ก็เหมือนเป็นการ power up ขึ้นมา ทั้งรูปลักษณ์ตลับที่ดูพรีเมี่ยมมากขึ้น พลาสติกไม่ก๊องแก๊งนะ ดูดีเลย สรรพคุณที่อ่านคร่าว ๆ คือเป็นแป้งอัดแข็งที่มีคุณสมบัติเป็นได้ทั้ง pressed และ foundation เรียกว่าใช้ตัวเดียวก็ได้ ใช้เติมหน้าให้แน่นก็เอาอยู่ พอเปิดฝาออกมาก่อนใช้งานจริงก็มีพลาสติกใส คั่นระหว่างพัฟกับตัวแป้ง สิ่งที่สัมผัสได้คือ ตัวพัฟค่อนข้างนุ่ม และไม่มีกลิ่นสังเคราะห์ ซึ่งดีค่ะ ในส่วนของแป้งเราว่าประกอบในตลับเรียบร้อยดี ไม่มีรอยแตกหรือเศษแป้งกระเทาะรอบ ๆ และดูมีปริมาณเต็มตลับสมบูรณ์ แต่เนื้อสีของแป้งดูค่อนข้างเข้มค่ะ ก็แอบกลัว ๆ ว่า จะเข้มไปมั้ย เพราะพอกดพัฟลงกับแป้งดูสีชัดมาก ขนาดปาดบนผิวยังเห็นรอย ๆ แป้งเลย (รูปที่สาม) เราเลยค่อย ๆ แตะพัฟกับหน้าเบา ๆ เพราะกลัวมันจะหนาเกินไปค่ะ และเมื่อถึงเวลาที่ทาแป้งเสร็จ ตอนที่ยังไม่เกลี่ย ก็เห็นรอยแป้งเป็นคราบ ๆ นิดหน่อย ยิ่งช่วงนี้สิวขึ้นด้วย พอแป้งเจอผิวแห้องรอบสิวก็แบบ เอาแล้ว คราบมาแน่นอน เลยกดๆ เน้น ๆ ให้แป้งเข้ากับหน้าไว ๆ กดไปกดมา เพลิน พอส่องกระจกอีกที เอ้ยมันเนียนดีแฮะ คราบแป้งที่กังวลไม่ได้เกาะหนาอย่างที่คิด ดูกลมกลืน ปกปิดรอยดำรอยแดงสิวได้ประมาณหนึ่ง และไม่มีแป้งเกาะตรงบริเวณที่กังวล ที่สำคัญคือดูหน้าสว่างอย่างเป็นธรรมชาติด้วย ซึ่งพื้นเพหน้าเราก็เป็นคนหน้ามัน เข้าใจได้ว่าพอระหว่างวัน แกะมาสก์ แกะอะไรมา แป้งก็จะหลุดติดออกมาค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้ามันขึ้นแต่อย่างใด เรียกว่าก็เป็นแป้งที่ไว้ใช้งานแบบชีวิตประจำวันได้โอเคเลย ถ้าตบ ๆ ระหว่างวัน ทัชอัพบ้างก็น่าจะโอเคทั้งวันค่ะ โดยสรุปที่ใช้มาประมาณ 4 วันโดยเดินทางออกไปทำงานด้วย ถ้านอกจากที่ติดแมสก์และพัฟค่อนข้างกินเนื้อแป้งเยอะ อย่างอื่นก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง ทำความสะอาดค่อนข้างง่ายด้วย เรียกได้ว่าเป็นของดีราคาสุดคุ้มอีกหนึ่งชิ้นที่น่ามีติดกระเป่านะคะ
more
Herbal Toothpaste Concentrated Formula
DentaMate Oral
Herbal Toothpaste Concentrated Formula
ขอบคุณ cosme*net ที่ช่วยให้เราลบความทรงจำของยาสีฟันสมุนไพรแบบเดิม ๆ ออกไป ใครว่าใช้ยาสีฟันสมุนไพรจะดูมีอายุนี่ไม่จริงเลยค่ะ อย่างเช่น Denta Mate หลอดนี้เป็นต้น ดูหน้าตากล่องและแพคเกจก็เห็นแล้วว่าดูวัยรุ่นมาก มาในส่วนสีของยาสีฟัน เป็นสีขาวบริสุทธิ์ไม่มีสารเจือปน กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมิ้นต์ (คิดว่าน่าจะใช่) จากคำอธิบายเขาบอกว่าให้ใช่เท่าเม็ดถั่วเขียว แต่พอดีเราใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า น้องเค้ามี area ค่อนข้างสั้น เลยปาดให้เต็มขนแปรงไปเลย ซึ่งก็ใช้ไม่เยอะเลยค่ะ จากนั้นก็เริ่มการแปรงฟัน ด้วยความที่เราใช้แบบไฟฟ้า ปกติถ้าบีบยาสีฟันเต็มแปรงแบบนี้แล้วกลั้วน้ำก็จะทำให้ฟองฟ่อด เลอะเทอะไปทั้งด้ามแปรง แต่เหมือน Denta Mate จะมีฟองไม่มากเกินไปค่ะ แล้วก็ละลายบนผิวฟันได้ค่อนข้างดี ไม่ต้องใช้น้ำมาก ก็ได้ฟองยาสีฟันทั่วทั้งปาก แต่เป็นฟองที่ค่อนข้างแน่น ไม่เหลวจนเลอะเทอะเปียกปอน เราว่าเค้าน่าจะมีวิทยาการอะไรซักอย่างทำให้มันใช้งานได้ง่ายขนาดนี้ อันนี้ดีงาม ชอบ แล้วอย่างที่บอกไปว่ามีกลิ่นหอมของมิ้นต์​รวมถึงกลิ่นจากสมุนไพรบาง ๆ ที่หอมแบบสดชื่น ๆ ค่ะ ทำให้เรารู้สึกแปรงแล้วเพลิดเพลินมาก ที่สำคัญคือไม่แสบ แม้ว่าในปากจะมีแผลร้อนใน แต่ฟองยาสีฟันโดนก็ไม่เป็นไร ค่อนข้างอ่อนโยนทีเดียว ตอนใช้เสร็จใหม่ ๆ ก็รู้สึกปากสดชื่นสะอาดดี รู้สึกว่าพวกคราบที่เกาะผิวฟันมันน้อยลงค่ะ รู้สึกโล่งสบายปากม๊ากกก แล้วพอตื่นมาตอนเช้านี่เซอร์ไพรซ์อีกจุด ทั้ง ๆ ที่ปกติตื่นมาจะรู้สึกถึงกลิ่นปากตอนเช้า แต่หลังจากใช้อันนี้เหมือนกลิ่นปากบางลง มีกลิ่นหอมของยาสีฟันเจือ ๆ ซะมากกว่า ซึ่งเป็นฟีลลิ่งที่แฮปปี้มาก ๆ เลยค่ะ โดยสรุปก็คือเราโอเคกับยาสีฟัน Denta Mate มาก ยิ่งใช้กับแปรงไฟฟ้านี่แปรงสนุกมาก จริง ๆ ถ้ามีรุ่นแบบผสมฟลูออไรด์ด้วยน่าจะเวิร์คมาก ๆ เลยค่ะ
more
Premium Essence
Melano CC
Premium Essence
บอกก่อนเลยว่าเป็นแฟน Melano CC อยู่แล้วตั้งแต่เข้ามาไทยใหม่ ๆ โดยตัวที่เคยใช้นั้นจะเป็นรุ่นที่เรียกว่าเป็น Brigtening Essence เราจะเรียกว่ารุ่นเก่าละกัน ส่วนตัวรุ่นใหม่ตัวนี้ ไม่มีคำว่าไบรท์เทนนิ่ง แต่ใช้คำว่าพรีเมี่ยมแทน ซึ่งก็สะดุดตาตั้งแต่กล่อง และแพคเกจ เหมือนรุ่นนี้น่าจะเป็นการอัพเลเว่ลของรุ่นเก่า ที่เป็นวิตามินซีเข้มข้นบำรุงผิว โดยที่เราก็พอรู้อยู่ว่าช่วยในเรื่องความกระจ่างใส แต่สำหรับตัวนี้ก็มีสรรพคุณที่เพิ่มขึ้นมาอีกคือด้านการลดเลืนฝ้ากระให้แลดูจางลง สมกับคำว่าพรีเมี่ยมมากขึ้น ซึ่งจากการใช้งานอย่างต่อเนื่องนั้นบอกเลยว่าเรายังคงชอบผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตาม เพราะทำให้ผิวเราแลดูกระจ่างใสได้อย่างสม่ำเสมอจริง ๆ เลยอยากจะมารีวิวในส่วนความแตกต่างของรุ่นเก่า (Brigtening Essence) และรุ่นใหม่ (Premium Essence) เราว่าเนื้อของรุ่นนี้จะมีความเคลียร์ ใส และใช้งานง่ายกว่ารุ่นไบรท์เทนนิ่ง ที่เนื้อจะมีความเข้มและหนืดคล้ายน้ำมันบำรุงผิวมากกว่า ซึ่งทำให้รุ่น Premium นี้เหมาะกับการเป็น Essence ที่ใช้ก่อนการลงครีมเนื้อหนัก ๆ อื่น ๆ ต่อไป สามารถใช้งานร่วมกับตัวบำรุงอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย ในเรื่องของกลิ่นก็มีความสดชื่น ออกส้ม ๆ นิด ๆ คล้าย ๆ ตัวเก่า เรื่อฝผ้ากระไม่ค่อยแน่ใจเพราะว่าเราไม่มี เลยไม่รู้ว่าเค้าลดได้หรือเปล่า แต่โดยรวมก็คิดว่าดีอยู่นะคะ เราว่าถ้าใครใช้อยู่แล้วอยากอัพเลเวลหรือบำรุงให้ลึกขึ้น ตัวนี้ก็น่าสนใจดีค่ะ
more
RED Natural Whitening & Firming Phenomenon Night Moisturiser
Oriental Princess
RED Natural Whitening & Firming Phenomenon Night Moisturiser
เป็นอีกแบรนด์ที่ขยันออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มาให้เราใช้เรื่อย ๆ เลยสำหรับ Oriental Princess ซึ่งตัวนี้ก็อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่น RED แพคเกจจิ้งสีแดง ให้ผลลัพธ์ด้านการยกกระชับ แลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์ผิวอายุ 30+ ได้เป็นอย่างดี ในส่วนแพคเกจจิ้งที่บอกไปนอกจากเรื่องสีแดงแรงฤทธิ์ บรรจุภัณฑ์เป็นแก้วค่อนข้างหนัก ทำให้แลดูหรูหราเกินราคาไปเลย เปิดฝาออกมาก็มีพลาสติกกั้นหนึ่งชั้น และมีช้อนตักครีมตามสไลต์ OP ซึ่งเราชอบมากเพราะทำให้เราตักครีมออกมาใช้งานได้อย่างสะอาดและปลอดภัย เนื้อครีมตัวนี้ เนื่องจากเป็นครีมกลางคืน เนื้อก็จะเหนียว หนัก แต่ไม่ได้ทำให้ผิวเหนอะหนะ ออกจะชุ่มฉ่ำบนผิวเสียมากกว่า ตอนทาอาจจะรู้สึกหนืดนิด ๆ แต่ก็ซึมซาบได้ไวดี สามารถใช้เป็นครีมจบก่อนนอน หรือทาตัวอื่นต่อก็ได้ กลิ่นเราไม่ค่อยชอบ แต่ก็ไม่ได้แรงขนาดนั้น รับได้อยู่ ในส่วนของผลลัพธ์ ที่จริงไม่ได้คาดหวังอะไรมากเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยได้ใช้ผิวหน้าทำอะไร คิดว่าน่าจะผิวโอเคอยู่ แต่ปรากฎกว่าพอทาเสร็จ เช้าวันต่อมา ผิวค่อนข้างนิ่ม และดูฟู เหมือนนอนอิ่มกว่าทุก ๆ วัน ทั้ง ๆ ที่นอนและตื่นเวลาเดิม อาจจะต้องดูผลลัพธ์อีกทียาว ๆ แต่โดยรวมก็ค่อนข้างพอใจนะคะ
more
Regenerist Collagen-Peptide24 Serum
OLAY
Regenerist Collagen-Peptide24 Serum
พูดถึง Olay เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงรู้สึกเหมือนกันว่าเป็นแบรนด์ consumer ที่มีผลลัพธ์ใกล้เคียง counter brand ประมาณนึง แถมมีไลน์ผลิตภัณฑ์ให้เลือกอย่างหลากหลายอีกด้วย พอ cosme*net มีให้ลองก็รีบเลยค่ะ ซึ่งรอบนี้ เป็นตัวไลน์ Regenerist ที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก โดยตัวที่เราเลือกทดลองใช้ในครั้งนี้คือ Olay Regenerist Collagen-Peptide24 Serum นั่นเอง ในส่วนแพคเกจจิ้ง หน้าตาค่อนข้างคุ้นเคย เพราะเราเองก็เคยใช้ Olay Regenerist Miracle Boost Youth Pre Essence ความขวดแก้วความหัวปั๊มและดรอปเปอร์เอยอะไรเอย ทำให้เรารู้สึกว่าใช้งานง่าย สามารถกะปริมาณของเนื้อเซรั่มได้อย่างสะดวก และไม่ต้องใช้นิ้วสัมผัสกับเนื้อผลิตภัณฑ์จากบรรจุภัณฑ์โดยตรง สำหรับเนื้อของรุ่นนี้คิดว่าค่อนข้างเข้มข้นกว่าตัวที่เคยใช้ เนื่องจากเค้าเป็น Serum ที่จะมีความเข้มข้นกว่า Pre Essence อยู่แล้ว จากการอ่านส่วนผสมพบว่ามีสารบำรุงที่จำเป็นมากมาย ทั้ง คอลลาเจน เปปไทด์ + Niacinamide ซึ่งตัวหลังนี้เรียกว่ามาแรงมากในเรื่องของการบำรุงและฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า ซึ่งเค้าจะมีความเป็นเนื้อสีขาว หนืดเล็กน้อย สามารถทาให้ทั่วใบหน้าได้ โดยไม่ไหลย้อย และก็ไม่หนึบหน้าจนไม่สามารถบำรุงผิวขั้นตอนต่อไปได้ ทำให้ตัวนี้สามารถใช้งานในตอนเช้าได้ด้วย เป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ ในส่วนของผลลัพธ์ ต้องบอกก่อนว่าเราใช้ตัวนี้ร่วมกับครีมบำรุงผิวอื่น ๆ อีกหลายตัว ซึ่งทำให้เราไม่แน่ใจนักในส่วนของผลลัพธ์ แถมช่วงนี้ work from home ทำให้ไม่ได้แต่งหน้าสักเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าช่วงที่ใช้ตัวนี้ เหมือนทาครีมอะไรก็ดี หน้าดูอิ่ม เรียบเนียน รู้สึกชุ่มชื้นแต่ไม่มัน เวลาเอามือจับหน้าไม่รู้สึกถึงความหยาบกร้าน ทั้ง ๆ ที่นั่งห้องแอร์ในบ้านทั้งวัน อาจเรียกได้ว่าน้องช่วยเสริมพลังครีมอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี และด้วยราคาที่น่ารักของเค้า จะมีสักขวดในบ้านก็ไม่เลวนะคะ
more
Vitamin Brightening Serum
BSC
Vitamin Brightening Serum
ช่วงนี้ BSC ทำอะไรออกมาก็น่าใช้ไปหมด อย่างครีมซองตัวนี้ ที่เค้าบอกว่าเป็น vitamin serum ดูเผิน ๆ ก็เหมือนครีมซองทั่ว ๆ ไป เข้าใจว่าน่าจะเล็ก ๆ แบบพกพา แต่พอได้มาจริง ๆ เอ้ย แอบเยอะอยู่นะ ตกใจกับขนาด มาดูในส่วนคุณสมบัติ น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเค้าบอกว่าตัวเองเป็นวิตามินเซรั่มที่ชูด้วยวิตามินซี และ วิตามินบี 3 ปกติเราจะเห็นพวกครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เป็นวิตามินซีมักจะมาจากส้ม มะนาว แต่ซองนี้เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มากกว่า 32 ชนิด ทำให้มีปริมาณวิตามินซีมากกว่าส้ม 32 เท่า เข้าท่าๆ ในส่วนของเนื้อผลิตภัณฑ์ หลังจากเปิดฝา บีบเนื้อครีม คือผิดคาดมาก เข้าใจว่าจะเป็นครีม เนื้อโลชั่น กลิ่นส้ม ๆ แต่ผิดหมดเลยยย น้องเป็นเนื้อเจลใส และมีเม็ดสีแดง ๆ เจือ หน้าตาแบบเดียวกับหน้าซองเป๊ะ ๆ ตื่นเต้นๆ มาถึงตอนใช้งาน วิธีใช้ก็คือต้องเอานิ้วค่อย ๆ นวดวน จนเม็ดสีแดง ๆ ผสมกับเนื้อเจลใสจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วค่อยนำมาทาผิว ซึ่งเราว่าทำให้น่าใช้มาก เหมือนเราได้วอร์มเนื้อเซรั่มไปในตัว ตอนทาบนผิวก็ทาง่าย ซึมซาบไว เรื่องกลิ่นไม่แน่ใจแต่ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างอ่อน และไม่ระคายเคือง ไม่ทำให้เหนอะหนะระหว่างวันด้วย ด้านสรรพคุณเค้าบอกว่าเน้นผลลัพธ์ผิวใส นุ่มเด้ง มีออร่า ซึ่งส่วนตัวเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เข้าใจได้ว่าต้องใช้เวลา แต่ก็รู้สึกว่าใช้แล้วผิวนุ่ม ๆ ดี ราคาไม่แรง ถ้าต้องพกพาไปไหนแล้วอยากทำพวก mask pack ตัวนี้เราว่าก็เวิร์คนะ
more
Sweet Lip
Aqua Organic
Sweet Lip
เป็นแบรนด์ใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับ aqua organic ด้วยความที่ปกติแล้วก็ชื่นชอบความบางเบาของเครื่องสำอางญี่ปุ่นอยู่แล้ว นี่ชูโรงด้วยความ organic ด้วยยิ่งดูน่าสนใจเข้าไปอีก ซึ่งส่วนตัวลิปมันมีสี ถือเป็นไอเทมที่เราใช้เป็นประจำอยู่แล้วเพราะมันช่วยให้หน้าเรามีสีสันขึ้นมาแบบดูเป็นธรรมชาติ คราวนี้พอได้น้อง sweet Lip มาลอง ประทับใจอย่างแรกเลยคือแพคเกจ นางมาพร้อมกับถุงผ้าน่ารักปุ๊กปิ๊กมาก ๆ ด้านในก็มีแผ่นพับ อธิบายเกี่ยวกับสินค้า ทำให้รู้ว่านี่คือลิปออร์แกนิกที่ใช้วัตถุดิบแบบเดียวกับที่ทำขนม (food grade)ซึ่งน่าสนใจมาก ๆ ดูในส่วนของแท่งลิปก็เหมือนลิปทั่ว ๆ ไป ส่วนตัวคิดว่าแพคเกจน่ารัก มีความญี่ปุ่นสูงมาก เปิดฝาออกมา โอ้ สีดูเข้มจังเลย (สีที่เราได้มาคือ Clear Cranberry) แต่ก็เข้าใจแหละว่า ปกติลิปมันมีสีพวกนี้ก็มักจะไม่ได้สีเดียวกับในแท่งอยู่แล้ว เลยไม่ติดอะไร พอมาปาดที่ผิว ถึงรู้ว่า ที่เราคิดว่าสีน่าจะอ่อนกว่าแท่ง มันไม่อ่อนธรรมดา มันอ่อนมากกกกกกก ถ้าเทียบกับลิปมัน Chanel ที่เคยรีวิวไป อันนั้นสีบนแท่งคล้าย ๆ กัน แต่ตอนปาดสวอชก็ดูมีสีเข้มกว่าน้องแท่งนี้อีก ความแตกต่างระหว่างน้อง Aqua Organic กับลิปมันมีสีอื่น ๆ ที่เรามีคล้าย ๆ กันคือ เนื้อเขาจะบางเบากว่า แล้วสัมผัสของตัวลิปบนผิวค่อนข้างนุ่มกว่านิดหน่อย เหมือนเนื้อเขาตีมาเบาและฟูกว่าค่ะ คราวนี้มาถึงตอนทาบนปากบ้าง เนื้อเค้าลื่นทาง่ายแต่สีออกค่อนข้างน้อยมาก จะเห็นความแวววาวบนปากมากกว่า รู้สึกว่าต้องปาดหนักมือกว่าลิปอื่น ๆ กว่าจะกลบสีปากธรรมชาติได้มิดค่ะ สำหรับความรู้สึกตอนลิปอยู่บนปาก ไม่ค่อยแตกต่างอะไรกับลิปมันมีสีแบรนด์อื่น ๆ ไม่เหนอะหนะ ไม่แสบ ไม่หนักปาก ทำให้ปากรู้สึกชุ่มชื้นได้ยาวนานพอประมาณค่ะ ส่วนตัวให้คะแนนลิปแท่งนี้ที่ 4 เพราะรู้สึกว่าเป็นลิปมันออกสีที่สีค่อนข้างน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ถ้าใครแพ้พวกสารเคมีในลิปง่าย หรือกังวลาเกี่ยวกับสารต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้กับริมฝีปาก เลือกตัวนี้ไว้ก็น่าจะปลอดภัยดีค่ะ
more