สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวสกินแคร์ที่กำลังใช้ช่วงนี้ค่าาาก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เราได้รับผลิตภัณฑ์ทดลองใช้มาจากทางเว็บ cosmenet นะค้าาาา ไหว้ย่อสวยๆ ค่าาาา : ) ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เราได้รับทดลองใช้ก็คือ... มอยเจอร์ไรเซอร์ St.Ives Face Moisturizer ตัวนี้เป็น 100% มอยเจอร์ไรเซอร์ มีเนื้อครีมและสูตรให้เลือกใช้หลากหลายตามสภาพผิวที่ต้องการ ไม่มีพาราเบน, ไม่มีแอลกอฮอล์, ผ่านการทดลองจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมีให้เลือกด้วยกัน 3 สูตรตามสภาพผิวนะคะ- Smooth & Glowing Pudding Cream Apricot- Bright & Radiant Hydrating Gel Pink Lemon & Peach- Renewing Soft Cream Avocado & Coconut Oilสูตรที่เรากำลังใช้อยู่ก็คือ Smooth & Glowing Pudding Cream Apricot ผสานด้วยสารสกัดจากแอปริคอตธรรมชาติ 100% ส่วนผสมจาก Apricot ช่วยให้ผิวนุ่ม โกลว์อย่างเป็นธรรมชาติเนื้อพุดดิ้งสุดนุ่มเด้งทุกครั้งที่แตะเนื้อครีมพุดดิ้งที่ฮิตมากในกลุ่มสกินแคร์เกาหลี มีในประเทศไทยแล้วเป็นที่แรก!ปริมาณ : 45 กรัมแพคเกจ : เป็นกระปุกครีมพลาสติก ลวดลายน่ารักกกกกกกก ดูรู้เลยค่ะว่านี่คือสูตร apricot เพราะมีลายลูกแอปริคอตสีส้มสดใสตัดกับสีเขียวพื้นหลัง แค่กระปุกก็บ่งบอกถึงสดชื่นมีชีวิตชีวาแล้ว พอเปิดฝาออกมาจะมีฝาพลาสติกปิดอยู่อีกชั้น ช่วยรักษาความสะอาดให้กับเนื้อครีมข้างในเนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อพุดดิ้งครีมตามคำเคลมเลยค่ะ เนื้อจะเด้งๆ เวลาเราแตะ สีขาวอมส้มนิดๆ เวลาแตะมาทาลงบนผิวจะรู้สึกเย็นสดชื่น เนื้อพุดดิ้งจะไม่ให้ความรู้สึกหนักผิว อันนี้ดีมากสำหรับคนไม่ชอบเนื้อครีมหนาหนักแบบเรา ที่สำคัญคือเกลี่ยง่ายมากกก เนื้อนุ่มลื่นสุดๆ กลิ่น : หอมกลิ่นแอปริคอต หอมสดชื่นละมุนๆ กลิ่นไม่ฉุน เวลาทารู้สึกผ่อนคลายสบายผิวมากความรู้สึกหลังใช้ : เวลาทาลงลนผิว เนื้อครีมที่นุ่มเด้งแบบเนื้อพุดดิ้งจะให้ความรู้สึกสบายผิว ไม่หนาหนัก เนื้อครีมนุ่มลื่น เกลี่ยง่าย ทิ้งไว้แป๊บนึงก็ซึบซาบลงไปบนผิว แต่ไม่ถึงกับซึมหายไปเลยทีเดียวนะคะ จะให้ความรู้สึกว่ายังมีเนื้อครีมเคลือบอยู่บนชั้นผิว ให้ความรู้สึกชุ่มชื่นและผิวเรียบลื่นขึ้น ง่ายต่อการทาครีมกันแดด รองพื้น และแต่งหน้าหลังจากใช้ไปประมาณ 3 สัปดาห์ รู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น และผิวดูอิ่มฟูขึ้นค่ะ เป็นครีมที่เหมาะทาในทุกๆ วัน เพราะอ่อนโยนและช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดีมาก แถมราคายังน่ารักอีกด้วย

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว Cosmenet ทุกคนค่าาาาา : ) เราเองห่างหายไปจากการรีวิวในเว็บมาพักนึง ไหนจะเรื่องงานที่เครียดทุกวัน ไหนจะเวลาพักผ่อนน้อย แล้วอายุก็ใกล้เลขสามเข้าไปทุกที ช่วงนี้ผิวเราทรุดโทรมสุดๆ เลยค่ะ จะบำรุงผิวเน้นขาวใสแบบเมื่อก่อนก็ไม่ได้แล้ว พออายุมากขึ้น เรื่องความเอจความแก่เป็นอะไรที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะใคร ๆ ก็อยากมีผิวอ่อนเยาว์หน้าเด็กตลอดเวลา จริงมั้ยคะ? นี่ก็เลยเป็นเหตุผลที่เราพยายามหาครีมเอย เซรั่มเอย ที่จะช่วยฟื้นบำรุงผิวที่เหนื่อยล้าจากการทำงานหนักและอายุที่มากขึ้น แต่จะซื้อเซรั่มหรือครีมบำรุงแพง ๆ ก็คงไม่ไหวสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา จังหวะเหมาะพอดิบพอดีกับที่ทางเว็บ Cosmenet มี Message ให้ beauty Tester อย่างเราทดลองใช้ POND'S Age Miracle Ultimate Youth Essence เซรั่มเอสเซ้นส์ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์หลังจากทางเว็บคอนเฟิร์มว่าเราได้รับผลิตภัณฑ์ทดลองใช้ เราก็รอรับพัสดุอย่างใจจดใจจ่อค่ะ เชื่อว่าโมเม้นต์ของการรอพัสดุและการแกะกล่องเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นสำหรับใครหลาย ๆ คน รวมถึงเราด้วย ถึงจะรู้ว่าข้างในคืออะไรแต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ทุกที ^^ และวันที่รอคอยก็มาถึงงงง.. กรี๊ดดดดด! รีบหยิบมาแกะกล่องดูแบบไม่ลังเลเลยค่ะ ข้างกล่องผลิตภัณฑ์เขียนว่า.."ตัวช่วยเผยผิวเปล่งประกายความอ่อนเยาว์ ด้วยพลังจากส่วนผสมอันทรงคุณค่า ช่วยฟื้นบำรุง และเร่งการผลัดเซลล์ผิว พร้อมเผยผิวใหม่เร็วขึ้น ริ้วรอยดูลดเลือน เพื่อผิวใส เนียนนุ่ม ดูอ่อนเยาว์ สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงภายใน 7 วัน"TRIPLE HYALURONIC ACIDdeeply penetrates to moisturise and hydrate your skin from deep withinไฮยาลูรอนิค x3 เติมเต็มความชุ่มชื้นสู่ชั้นผิวอย่างล้ำลึกRED ALGAEfamous for reduction of fine lines and wrinklesสาหร่ายสีแดงจากประเทศฝรั่งเศส ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกอย่างมีประสิทธิภาพFERMENTED BIFIDArepairs skin barrier for soft, smooth, healthy skinไบฟิด้า เฟอร์เมนต์ ฟื้นบำรุงและเสริมเกราะป้องกันให้ชั้นผิว เพื่อผิวดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดีACTIVATED COLLAGENimprove skin elasticity for supple, plump skinคอลลาเจน ฟื้นบำรุงชั้นผิว สัมผัสผิวนุ่ม เรียบเนียน อิ่มฟูPEPTIDE BOOSTERfirms, tightens and liftsเปปไทด์บูสเตอร์ ช่วยกระชับผิว เพื่อผิวเด้ง เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์VITAMIN B3brightens and reduces dark spotsวิตามินบี3 ปรับผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมลดเลือน ฝ้า กระ และจุดด่างดำจากคำเคลมข้างกล่องและหน้าตาของแพคเกจที่เรียบหรูดูแพงน่าใช้ บวกกับเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทางเว็บส่งมาให้ เราก็มั่นใจว่าต้องกอบกู้ผิวหน้าที่เหนื่อยล้ากลับมาให้ได้อย่างแน่นอน!แกะกล่องผลิตภัณฑ์กันเลยค่าาาา..ขวดเซรั่มเอสเซ้นส์สีแดงรูปทรงสวยงาม ดูหรูหราเหมือนกับขวดเซรั่มแพง ๆ ตั้งไว้บนโต๊ะแป้งแล้วแบบเริ่ชชชมาก ตรงฝาเป็นดรอปเปอร์ แค่กดด้านบนเซรั่มเอสเซ้นส์ก็จะเข้าไปในหลอดปริมาณพอดีต่อการใช้ 1 ครั้งเนื้อเซรั่มเอสเซ้นส์สีขาวมุก ไม่เหลวจนเกินไป เนื้อสัมผัสมีความบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว แต่ไม่ถึงกับทาแล้วไม่เหลืออะไรไว้บนผิวหน้านะคะ เราจะรู้สึกว่าตัวเอสเซ้นส์ยังคงเคลือบอยู่ที่ผิว ให้สัมผัสที่ผิวเรียบลื่นขึ้น แต่ไม่รู้สึกเหนอะหนะ และยังคงความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าส่วนเรื่องกลิ่น เป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ น่าจะมีส่วนผสมของน้ำหอม ส่วนตัวเราไม่แพ้นะคะ เพื่อน ๆ คนไหนที่ผิวแพ้ง่ายควรทดสอบก่อนนะปริมาณ 30 กรัมราคา 599 บาท#นอกจากนี้ยังมีแบบซองด้วยนะคะ ปริมาณ 7 กรัม ราคา 39 บาท ซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อ ไปหยิบมาลองเทสต์ก่อนได้เด้อวิธีการใช้หยดเซรั่มเอสเซนส์แล้วทาลงบนผิวหน้าหลังจากล้างทำความสะอาดแล้วเช็ดด้วยโทนเนอร์จากนั่นค่อย ๆ ลูบไล้เนื้อเซรั่มเอสเซนส์ให้ทั่วใบหน้าใบ และลูบไล้เนื้อเซรั่มเอสเซนส์ลงมาถึงลำคอเทคนิคคือการการนวดกระชับผิวต้องนวดขึ้นตามแนวใบหน้าจากล่างขึ้นบนนะคะ ผิวเราจะได้ไม่หย่อนคล้อยไปตามแรงดึงดูดของโลก ><ควรใช้เป็นประจำเช้า เย็น จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้นค่ะความรู้สึกหลังใช้หลังจากทาเซรั่มเอสเซ้นส์และตามด้วยครีมบำรุงก่อนนอน พอตื่นเช้าเราจะรู้สึกว่าผิวของเรามีความชุ่มชื่นขึ้น พอใช้ไปสักพักจะรู้สึกว่าผิวเหนื่อยล้าน้อยลง มีความอิ่มน้ำขึ้น สัมผัสที่ผิวจะนุ่มเนียนขึ้นช่วงเช้าก่อนแต่งหน้า เซรั่มเอสเซ้นส์จะช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิว มีความบางเบา ซึมซาบไว้ ไม่เหนอะ แต่ไม่ใช่ซึมหายไปเลยทีเดียวนะคะ ยังคงมีความรู้สึกว่าเซรั่มเอสเซ้นส์ยังคงเคลือบคลุมบาง ๆ อยู่ที่ผิว และช่วยปรับผิวให้เรียบลื่นขึ้น ทาครีมกันแดดและแต่งหน้าได้ง่าย ไม่ทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบหลังจากใช้ไปประมาณ 2 สัปดาห์ ผิวที่เหนื่อยล้าของเราก็ได้รับการเติมเต็มความชุ่มชื่นที่ล้ำลึกมากขึ้น ช่วยฟื้นฟูให้ผิวค่อย ๆ อิ่มฟูขึ้น และสัมผิสที่ผิวจะเรียบเนียนอ่อนนุ่มมากขึ้นความประทับใจของเรา เพียงแค่ใช้ไปประมาณ 2 สัปดาห์ เราก็รู้สึกได้ว่าผิวหน้ามีการเปลี่ยนแปลง จากผิวที่เหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก พักผ่อนน้อย และอายุที่เพิ่มมากขึ้น ได้รับการฟื้นฟูให้ได้รับความชุ่มชื่นและช่วยกระชับผิวให้ดูอ่อนเยาว์จากสารบำรุงที่ใส่มาอย่างอัดแน่นภายใต้ขวดเซรั่มเอสเซ้นส์ราคาหลักร้อย เชื่อว่าถ้าใช้ต่อเนื่องจนหมดขวดต้องเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นและหน้าต้องดูเด็กลงแน่ๆเพื่อนๆ คนไหนสนใจหรือกำลังมองหาเซรั่มเอสเซ้นส์คุณภาพดีในราคาจับต้องได้สบายกระเป๋า เราขอแนะนำให้ไปลองหยิบ POND'S Age Miracle Ultimate Youth Essence มาใช้ดูค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังตังค์ยังเหลือ : ) หรือถ้าไม่มั่นใจว่าจะใช้ดีมั้ย จะเข้ากับผิวรึป่าว แวะไปที่ร้านสะดวกซื้อ หยิบแบบซอง 39 บาท มาลองใช้ก่อนแบบกรุบกริบก็ได้นะคะ ส่วนใครอยากได้รับผลิตภัณฑ์ทดลองใช้ฟรีๆ แบบเรา แนะนำให้สมัครสมาชิกและลงทะเบียนเป็น Beauty Tester ของเว็บ Cosmenet จากนั้นก็รอรับข้อความรับผลิตภัณฑ์ไปทดลองใช้ฟรี ๆ แล้วค่ะ หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจเลือกซื้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้นน้าาา : )

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีไอเทมใหม่ที่เพิ่งได้รับผลิตภัณฑ์ทดลองใช้มาจากเว็บ cosmenet ส่งตรงมาถึงบ้านเลยยยย พอแกะกล่องปุ๊บก็เจอกับครีมอาบน้ำ Parrot Natural Oil in Bath ส่งมาให้ถึง 3 สูตร เห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทดลองแต่ก็ไม่ได้มาแบบไก่กาอาราเล่นะจ๊ะ เพราะแต่ละขวดปริมาณถึง 100 มิลลิลิตร ใช้ได้นานลืมมมม! และที่สำคัญมีกระเป๋าเกร๋ๆ ใส่มาด้วยจ้าาาา สวยงามมีสไตล์ เหมาะพกพาเครื่องสำอางไปเที่ยวมั่กๆมาเข้าเรื่องผลิตภัณฑ์กันดีกว่าค่ะครีมอาบน้ำ Parrot Natural Oil in Bath 'ครีมอาบน้ำอาบผิวนุ่มระดับพรีเมี่ยม หอมหรูสไตล์ฝรั่งเศส'เป็นครีมอาบน้ำเนื้อน้ำนม ที่ให้สัมผัสผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น อิ่มน้ำ ผสมออร์แกนิค อาร์แกน ออยล์ สุดยอดน้ำมันบำรุงผิวล้ำลึกจากโมร็อคโค พร้อมกลิ่นหอมหรูสไตล์ฝรั่งเศสส่งมาให้เลือกใช้ด้วยกัน 3 สูตรค่ะ- SOFT ROMANCE ผสานเชียบัตเตอร์ ให้ผิวเนียนนุ่ม น่าสัมผัส- WHITE PERFECT ผสานวิตามิน B3 ให้ผิวแลดูกระจ่างใส อย่างเป็นธรรมชาติ- HYDRO FRESH ผสานน้ำแร่ธรรมชาติ ให้ผิวสดชื่นอิ่มน้ำบรรจุภัณฑ์ขวดจะเน้นความพรีเมี่ยม หรูมีระดับ มาพร้อมกับลวดลายดอกไม้ที่บ่งบอกความหอมของแต่ละกลิ่น สีสันดูโดดเด่น สวยสะดุดตา ซึ่งขวดทดลองที่เราได้มาจะเป็นฝาแบบกดเปิดปิดนะคะ สำหรับคนขี้เกียจๆ แบบเราแอบไม่ค่อยสะดวกเวลาใช้เท่าไร ถ้าเป็นแบบฝาปั้มจะดีมากกกก สงสัยต้องไปหาขวดใหญ่มาใช้เพิ่มแล้ววววเนื้อผลิตภัณฑ์เนื้อครีมอาบน้ำจะเป็นเนื้อครีมเข้มข้น สีขาวมุก เทจากขวดง่าย เนื้อมีความนุ่มกลิ่นแต่ละสูตรจะมีกลิ่นหอมที่แตกต่างกันไปค่ะ- SOFT ROMANCE กลิ่นหอมอ่อนๆ ละมุนๆ- WHITE PERFECT กลิ่นหอมแบบผู้หญิงหวานๆ เหมือนใช้น้ำหอมหรูๆ- HYDRO FRESH กลิ่นหอมเฟรชๆ สดชื่นๆความรู้สึกหลังใช้เราชอบความนุ่มลื่นของเนื้อครีมอาบน้ำ รวมถึงความเข้มข้นของเนื้อครีม กดใช้แค่นิดเดียวก็สามารถอาบน้ำทั้งตัว ใช้แบบธรรมดาลูบไล้ทั่วร่างกาย หรือใช้กับตาข่ายตีฟองได้ฟองครีมเนื้อแน่น ล้างออกง่ายไม่ลื่นติดผิวหรือทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น หลังอาบจะรู้สึกได้ว่าผิวสะอาดหมดจด และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ติดผิว

รีวิวนี้เราขอหยิบ Clean & Clear Essentials Oil-Control Toner ที่ได้รับผลิตภัณฑ์ทดลองมาจาก cosmenet มาเล่าสู่กันฟังนะคะอย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ค่ะว่าการเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์หลังการล้างหน้าเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผิวหน้าของเราสะอาดหมดจด ไม่มีสิ่งสกปรกตกค้าง ช่วยขจัดแบคทีเรียและความมันส่วนเกินที่เป็นสาเหตุของสิวเสี้ยน สิวอุดตัน ดังนั้นเราจึงเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์อ่อนๆ ที่อ่อนโยนต่อผิวอย่าง Clean & Clear Essentials Oil-Control Toner โทนเนอร์ ขวดสีฟ้าขวดนี้มาใช้เช็ดหลังล้างหน้าเพื่อให้มั่นใจว่าหน้าสะอาดจริง พร้อมรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่คุณสมบัติที่โดดเด่น-ควบคุมความมัน-ไม่อุดตันผิว-ป้องกันสิว&สิวเสี้ยนปริมาณ 50 mlราคา 49 บาทวิธีใช้หลังล้างหน้า หยดโทนเนอร์ลงบนสำลี เช็ดให้ทั่วใบหน้า ใช้เป็นประจำ 2 ครั้งต่อวันความรู้สึกหลังใช้หลังเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ Clean & Clear Essentials Oil-Control Toner จะรู้สึกได้ว่า ผิวสะอาด หมดจด ความมันส่วนเกินบนใบหน้าหายไป แต่ผิวยังคงความชุ่มชื่น ไม่แห้งตึง เวลาที่ทาครีมบำรุงผิวก็ซึมซาบได้ไวผิวสะอาด + ลดความมันบนใบหน้า ถ้าใช้เป็นประจำคงลดโอกาสในการเกิดสิวได้ดี และทีสำคัญเราเองไม่แพ้ด้วยค่ะ เป็นไอเทมที่ช่วยเคลียร์ผิวให้ใสไร้สิวในราคาเบาๆ

สมัยนี้ครีมกันแดดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสาวๆ อย่างเรา จะออกไปนอกบ้านไม่ว่าใกล้หรือไกลก็ต้องทาครีมกันแดดไว้ให้อุ่นใจก่อน เพราะแดดเมืองไทยร้อนจนละลาย ถ้าเผลอลืมทาแล้วออกไปใช้ชีวิตเมื่อไร กลับมารู้เรื่องเลยค่ะ! ต้องมีอาการแสบผิว และผิวดำคล้ำขึ้นแน่นอน ดีไม่ดีจะแถมมะเร็งผิวหนังมาให้เราด้วย เราเลยเป็นคนที่ให้ความใส่ใจในการทาครีมกันแดด ทั้งทาตัวและใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ เพราะคิดว่าป้องกันไว้ก่อนย่อมดีที่สุด แต่การจะหากันแดดคู่ใจไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ โดยเฉพาะครีมกันแดดสำหรับใบหน้า เพราะต้องเลือกทั้งราคาดี ประสิทธิภาพการกันแดดเยี่ยม และที่สำคัญต้องเข้ากับผิวหน้าของเรา ไม่วอก ไม่ลอย และไม่ทำให้เครื่องสำอางเยิ้มระหว่างวันด้วยหลังจากดูโฆษณาครีมกันแดดของ KA เราก็สะดุดตาสะดุดใจกับคำว่า "KA UV Protection BabyFace ปาดปุ๊บเนียนปั๊บ! จำไว้นะคะ ผู้หญิงเรา ต้องเนียน ถึงจะใช้ชีวิตได้สตรอง" โดนใจมากค่ะคุณขาาาา.. สมัยนี้เรื่องความเนียนความเป็นธรรมชาติต้องมาก่อนค่ะ พอผิวหน้าดีก็ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เราเลยไปสอยครีมกันแดดของ KA มาลองใช้ค่ะ ตัวนี้หาซื้อง่ายมากๆ เพราะมีวางขายที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน เป็นครีมกันแดดแบบซอง ราคาดี แถมยังพกพาง่ายด้วยค่ะเรามาทำความรู้จักกับครีมกันแดดตัวนี้กันนะคะKA UV Protection BabyFace SPF42 PA+++ อีกขั้นของวิวัฒนาการการปกป้องผิวจากแสงแดด ครีมกันแดดหน้าเนียน ผิวดูเด็กลง สูตรเฉพาะเพื่อผิวคนเอเชีย ไม่ใช้เบสซิลิโคน จึงไม่ทำให้เกิดการอุดตันของผิว ต้นเหตุของสิวอักเสบตัวนี้เขาเคลมว่า ป้องกันยูวี ช่วยพรางจุดดำ ปรับผิวเนียน หน้าใสขึ้น และที่สำคัญไม่ใช้เบสซิลิโคน ไม่ทำให้เกิดสิวคุณสมบัติมีดังนี้- มี Vitamin B3 & Vitamin E ช่วยให้ผิวของเราดูขาวใส นุ่มชุ่มชื่น ไร้ริ้วรอยก่อนวัย- ไม่ใช้เบสซิลิโคน มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดการอุดตันของผิวอันเป็นสาเหตุของสิวอักเสบแน่นอนค่ะ- มี Pigment CC ช่วยปรับผิวให้เนียน สีผิวสม่ำเสมอ และไม่หมองคล้ำระหว่างวัน- สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน จะใช้ทาแทนรองพื้น หรือบีบีครีมก็ได้ เพราะมีเนื้อครีมเป็นสีเนื้อ ช่วยให้แต่งหน้าเนียนติดทนนาน- เนื้อครีมไม่หนา ไม่หนัก ไม่มัน ไม่เหนอะผิว- ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านเสียสะสมในระยะยาวปริมาณ : ขนาดซอง 8 กรัมราคา : 29 บาทวิธีใช้ : ทาครีมกันแดดให้ทั่วผิวหน้าและลำคอ ก่อนการแต่งหน้าเนื้อครีม : เนื้อครีมกันแดดเป็นสีเนื้อ คล้ายบีบีครีม มีความเข้มข้น เกลี่ยบนผิวจะรู้สึกสัมผัสนุ่ม ไม่มัน ไม่หนักผิว เกลี่ยง่าย และไม่เป็นคราบ สังเกตได้ว่าเนื้อครีมจะกลืนไปกับสีผิวและช่วยปรับให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นมาเล็กน้อยกลิ่น : มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่มีกลิ่นฉุน หรือแอลกอฮอล์ความรู้สึกหลังใช้ : เนื้อครีมกันแดดเกลี่ยง่าย สามารถเกลี่ยบนใบหน้าได้โดยไม่ต้องปาดแรงๆ เนื้อครีมซึมซาบได้ดี ดูกลมกลืนไปกับผิว ไม่ลอยเป็นชั้นหนาหนักจนดูโป๊ะ หลังจากทาทั่วใบหน้าจะสังเกตได้ว่าสีผิวมีความสม่ำเสมอมากขึ้น ช่วยพรางรอยแดงและจุดด่างดำให้ดูจางลง เนื้อครีมกันแดดทำหน้าที่เป็นเหมือนเบสหรือ CC Cream ทำให้ไม่ต้องง้อรองพื้น สามารถแต่งหน้าต่อได้เลย ไม่เป็นคราบ ไม่หมอง ไม่เยิ้มระหว่างวันประสิทธิภาพการกันแดด : สามารถกันแดดได้ดี สังเกตจากช่วงระหว่างที่เราทำกิจกรรมการแจ้ง โดนแดดแรงๆ ไม่รู้สึกแสบผิวหน้า ไม่มีอาการแดงหรือผิวไหม้แดด กลับมาบ้านแล้วก็ไม่หมองคล้ำขึ้นความประทับใจ : ครีมกันแดดคุ้มค่าคุ้มราคาขนาดนี้ไม่เทคะแนนให้คงไม่ได้ เพราะ KA UV Protection BabyFace SPF42 PA+++ มาในรูปแบบซองราคาเพียง 29 บาท แต่ประสิทธิภาพการกันแดดเยี่ยม มี SPF42 PA+++ ออกไปข้างนอกแดดแรงแค่ไหนก็มั่นใจว่าผิวหน้าจะได้รับการปกป้อง แถมยังมีเนื้อครีมที่เป็นเสมือนเบสเมคอัพ ช่วยปรับผิวให้ดูเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ช่วยพรางจุดด่างดำ ทำให้ไม่ต้องง้อรองพื้น นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวอย่าง วิตามิน B และ E ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื่น เรียกว่าตัวเดียวประสิทธิภาพครบทั้งปกป้อง ปกปิด และบำรุง ที่สำคัญคือหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปสำหรับเราคิดว่า KA UV Protection BabyFace SPF42 PA+++ ตอบโจทย์ของครีมกันแดดที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบแต่งหน้าหลายขั้นตอน หรือสำหรับวันเร่งรีบ หยิบกันแดดมาปาดปุ๊บผิวก็เนียนปั๊บ สามารถแต่งหน้าต่อได้เลย เราเองก็หยิบตัวนี้มาใช้บ่อย เทคนิคคือหลังทาครีมกันแดดแล้วจะลงแป้งฝุ่นเบาๆ บริเวณทีโซนเพื่อคุมมัน ส่วนบริเวณอื่นเราก็ปล่อยไว้ เพราะเนื้อกันแดดที่เนียนไปกับผิวไม่ได้มีความมันหรือเหนอะหนะ พอทาแล้วก็จะเซ็ตตัวไปกับผิวเลย ดูเป็นงานผิวสุขภาพดีสุดๆ แต่ถ้าช่วงไหนที่มีปัญหาผิวเยอะ เช่นเป็นสิว มีรอยสิว ต้องการการปกปิดขั้นสุด ใช้แค่ครีมกันแดดคงไม่ไหว เราก็จะใช้แป้งผสมรองพื้นช่วย โดยเน้นเฉพาะจุดที่มีปัญหาผิวแล้วเกลี่ยให้ดูเรียบเนียนเพื่อนๆ คนไหนที่มองหาครีมกันแดดราคาสบายกระเป๋า หาซื้อง่าย กันแดดได้ดี และที่สำคัญคือเนียนไปกับผิว เราแนะนำให้ไปลองใช้ครีมกันแดด KA UV Protection BabyFace SPF42 PA+++ ที่ช่วยปกป้อง ปกปิด และบำรุงผิวในขั้นตอนเดียว ปาดปุ๊บเนียนปั๊บ! ออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจไม่กลัวแดด "จำไว้นะคะ ผู้หญิงเรา ต้องเนียน ถึงจะใช้ชีวิตได้สตรอง"

ถ้าพูดถึงวิปโฟมล้างหน้าจากญี่ปุ่นต้องนึกถึง SENKA Perfect Whip ขึ้นมาก่อนใคร เพราะแบรนด์นี้โด่งดังมากๆ เรื่องของวิปโฟมล้างหน้าที่มีเนื้อวิปโฟมหนานุ่ม ล้างหน้าได้สะอาด และยังคงความชุ่มชื่นให้ผิว เราเองก็ใช้มาตั้งแต่หลอดสีน้ำเงินรุ่นแรกสมัยที่ต้องสั่งซื้อสั่งพรีออเดอร์โน่นแน่ะ จนถึงตอนที่ทางแบรนด์นำเข้ามาขายอย่างเป็นทางการ ก็ใช้มาเรื่อยๆ จนตอนนี้มีให้เลือกหลายสีหลายสูตร ให้สาวๆ อย่างเราได้เลือกสูตรที่ใช่ เพื่อผลลัพธ์ความสะอาดใสที่ผิวต้องการสำหรับสูตรที่เราเลือกใช้ในช่วงนี้ก็คือ SENKA Perfect Whip WHITE เพราะสะดุดตาสะดุดใจกับแพคเกจที่เป็นสีขาว มีสีชมพูดอกซากุระ และสติกเกอร์ที่แปะไว้เขียนว่า 'วิปโฟมหนาหนุ่ม ผสานฟูจิซากุระ ให้ผิวดูกระจ่างใส สะอาด ชุ่มชื่น เหมาะกับทุกสภาพผิว' เห็นแบบนี้แล้วรีบซื้อมาใช้เลยค่ะ อยากให้หน้ากระจ่างใสอมชมพูซากุระบ้าง ^^ก่อนอื่นเรามาดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์กันก่อนค่ะSENKA Perfect Whip WHITE วิปโฟมละเอียดนุ่ม ให้ผิวสะอาด ชุ่มชื่น ผสานฟูจิซากุระ เอสเซ้นส์จากญี่ปุ่น ลดเลือนจุดด่างดำ มอบผิวดูกระจ่างใส ทำความสะอาดหมดจด เพื่อผิวดูสวยใส มาพร้อมกับเทคโนโลยีมอยส์เจอร์ บูสท์ มอบความชุ่มชื่นตรงสู่ผิว มอบผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์จากไวท์โคคูนหรือรังไหมสีขาว และดับเบิ้ลไฮยาลูรอนิคคุณสมบัติมีดังนี้ค่ะ-ช่วยทำความสะอาดหมดจด-เทคโนโลยีมอยส์เจอร์ บูสท์ มอบความชุ่มชื่นให้กับผิวยิ่งขึ้น-ผสานฟูจิซากุระ เอสเซ้นท์ ลดเลือนจุดด่างดำ รู้สึกถึงผิวดูกระจ่างใสทันที-ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแพคเกจผลิตภัณฑ์วิปโฟมมาในรูปแบบหลอดบีบค่ะ ฝาเปิดปิด รูปทรงเหมือนทั่วๆ ไปที่สามารถบีบใช้ได้สะดวก แต่รุ่นนี้จะมีความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ คือ ตัวหลอดจะเป็นสีขาว ฝาสีน้ำเงิน ดูสวยงามน่าใช้ปริมาณ 100 กรัมราคา 179 บาทเนื้อผลิตภัณฑ์พอบีบเนื้อโฟมออกมาจากหลอดจะเห็นเป็นเนื้อสีขาวมุก เนื้อโฟมมีความหนาแน่นมากๆถ้าล้างหน้าแบบธรรมดาจะรู้สึกได้ว่าโฟมล้างหน้ามีความเข้มข้น หนาแน่น และนุ่มลื่น บีบมาแค่นิดเดียวก็สามารถล้างได้ทั่วหน้าถ้าใช้คู่กับตาข่ายตีฟอง จะได้วิปโฟมที่เยอะมากๆ แถมยังมีความเนียนละเอียดและหนานุ่มสุดๆ ที่สำคัญเนื้อวิปมีความคงตัวได้นานมาก ไม่เหลวเสียรูปทรงกลิ่นกลิ่นหอมสไตล์โฟมล้างหน้าของเซนกะ หอมอ่อนโยนและรู้สึกสะอาด เวลาใช้จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นความรู้สึกหลังใช้เวลาล้างหน้าเราชอบใช้ SENKA Perfect Whip WHITE กับตาข่ายตีฟอง ทำให้ได้เนื้อวิปโฟมที่หนานุ่ม เวลาล้างหน้าจะรู้สึกนุ่มสบายหน้า ช่วยลดการเสียดสีระหว่างนิ้วมือกับผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ถึงจะมีฟองเยอะแต่ก็ล้างออกง่าย รู้สึกว่าผิวสะอาด และที่สำคัญยังคงความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าของเราด้วย เวลาจับแล้วไม่รู้สึกแห้งตึงความประทับใจหลังจากที่ใช้ SENKA Perfect Whip WHITE มาได้ระยะหนึ่ง ต้องบอกว่าเป็นอีกสูตรที่ประทับใจ นอกจากเรื่องวิปโฟมนุ่มละเอียด ผิวสะอาด ชุ่มชื่น ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของเซนกะแล้ว ยังรู้สึกได้ว่าผิวหน้ามีความกระจ่างใสขึ้นหลังล้างหน้า ผิวไบรท์สดชื่น และรู้สึกเนียนนุ่มกว่าเดิมด้วยจุดเริ่มต้นของการบำรุงผิวหน้าที่ดีเริ่มจากการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก เพื่อให้ผิวพร้อมได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ เราเองมักจะเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่ช่วยทำความสะอาดอย่างหมดจดและให้ความชุ่มชื่นกับผิวอย่าง SENKA Perfect Whip WHITE ที่กำลังใช้อยู่ตอนนี้ เพราะเป็นวิปโฟมละเอียดนุ่ม ช่วยให้ผิวหน้าของเราสะอาด ชุ่มชื่น และยังผสานฟูจิซากุระเอสเซ้นส์จากญี่ปุ่น ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้ผิวดูกระจ่างใส สามารถซื้อได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป แถมราคาสบายกระเป๋าด้วยค่ะ

สมัยนี้ถ้าออกไปนอกบ้านแล้วไม่ทาครีมกันแดดถือว่าผิดค่ะ!!! ไปเรียน ไปเที่ยว ไปทำงาน หรือแม้แต่เดินไปแค่หน้าปากซอย ไปเซเว่น ก็ต้องทา ครีมกันแดดนะคะ ไม่อย่างนั้นมีหวังเจอแดดเผาจนผิวเราคล้ำเสีย กลายเป็นสาวผิวสองสีไปเลยค่าาาา.. ซึ่งผิวสองสีที่ว่าก็คือผิวลาเต้นั่นเอง ข้างนอกกับข้างในเสื้อผ้าเป็นคนละสีกัน ข้างในเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยโดนแสงแดดก็ยังขาวกระจ่างใสอยู่ แต่บริเวณที่โดดแสงแดดคล้ำเสียสุดๆ สีผิวไม่สม่ำเสมอ แยกกันเป็นชั้นกาแฟกับนมอย่างชัดเจนเหมือนกาแฟลาเต้นั่นเอง ทีนี้จะใส่เสื้อผ้าโชว์ผิวสวยๆ ก็ไม่กล้า เพราะกลัวคนเห็นผิวสองสีของเรา หมดความมั่นใจกันพอดี เมื่อก่อนเราเองก็เคยประสบปัญหาผิวลาเต้นะคะ เพราะเป็นคนชอบใส่เสื้อแขนสั้น บางครั้งก็ลืมทาครีมกันแดด ทีนี้ตรงแขนก็จะแบ่งครึ่งส่วนที่ขาวกับส่วนที่คล้ำอย่างชัดเจน อยากจะใส่เสื้อปาดไหล่หรือเดรสแขนกุดก็ไม่กล้าเลยค่ะ ต้องใส่เสื้อที่แขนยาวลงมาเพื่อปิดไว้ ต้องทนขัดผิว ทาครีมบำรุงอย่างหนักหน่วง กว่าบริเวณหมองคล้ำจะจางลง แต่จะให้ทนใส่เสื้อแขนยาวไปตลอดคงไม่ไหว เราเลยเลือกตัวช่วยที่คอยปกป้องผิวจากแสงแดดรวมถึงช่วยปรับสีผิวที่หมองคล้ำให้กระจ่างใสขึ้น และที่สำคัญต้องมีเนื้อบางเบาด้วยนะคะ ทีนี้ก็สามารถใส่เสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจมากขึ้น สำหรับตัวช่วยที่เราใช้อยู่ในช่วงนี้ก็คือ NIVEA SUN DAILY PROTECT Whitening sun body serum SPF50 PA+++ กันแดดทาตัวเนื้อเซรั่มที่ให้มากกว่าการปกป้อง แต่ยังช่วยฟื้นบำรุงผิวคล้ำเสีย สีผิวไม่สม่ำเสมอเพื่อผิวดูขาวกระจ่างใสทั่วเรือนร่างอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถใช้ได้ป็นประจำทุกวัน คุณสมบัติของกันแดดตัวนี้ก็คือ..- UV & Collagen Protection ปกป้องแดดที่ทำร้ายผิวลึกถึงระดับคอลลาเจน ด้วย SPF50 และ PA+++ ปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA, UVB สาเหตุหนึ่งของผิวคล้ำเสีย ฝ้าแดด กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัย- Intensive Whitening ฟื้นบำรุงผิวให้ดูขาวกระจ่างใสทั่วเรือนร่าง ไม่กลับมาคล้ำเสียด้วยสารสกัดจากวิตามินซีเข้มข้น 50 เท่า และสารสกัดจาก Acerola Cherry- Anti-Pollution Complex ทำงานเสมือนเกราะปกป้องจากมลภาวะ ฝุ่นควันและสิ่งสกปรก ผิวจึงไม่แห้งกร้านเสียและหมองคล้ำจากมลภาวะที่ทำร้ายผิว- Non-Chemical ปราศจากเคมี (BHA) ที่ทำให้ผิวไวต่อแดด- Light Texture and Non-Sticky เนื้อบางเบา สบายผิว สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน ปริมาณ 180 มิลลิลิตรราคา 290 บาท มาดูแพคเกจกันค่ะสำหรีบครีมกันแดด NIVEA SUN DAILY PROTECT Whitening sun body serum SPF50 PA+++ มาในรูปแบบของครีมกันแดดทาตัวแบบหลอดบีบ ฝาเปิดปิดใช้งานได้สะดวก บีบเนื้อครีมได้ง่าย เนื้อครีมกันแดดครีมกันแดดเป็นสีขาว เนื้อค่อนข้างเหลว บีบออกจากหลอดได้ง่าย ด้วยความที่เป็นกันแดดเนื้อเซรั่มจึงให้ความรู้สึกบางเบา ไม่เหนียวหนอะหนะ เพียงแค่ใช้มือลูบไล้เบาๆ เนื้อครีมจะเปลี่ยนเป็นเนื้อเซรั่ม ทำให้เกลี่ยได้ง่าย ซึมซาบไว ทาแล้วหายไปกับผิวเลยค่ะ กลิ่นสำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นครีมกันแดดแรงๆ หรือกลิ่นฉุน ต้องมาทาครีมกันแดดตัวนี้ค่ะ หมดกังวลเรื่องกลิ่นไปได้เลย เพราะเราทาครีมกันแดดแต่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังทาครีมทาผิวของนีเวียยังไงยังงั้น เป็นกลิ่นหอมสไตล์ครีมบำรุงผิวของนีเวียที่มีความเป็นเอกลักษณ์ แถมยังหอมติดผิวยาวนานด้วยนะคะ ความรู้สึกหลังใช้อย่างแรกที่ประทับใจเลยก็คือเนื้อครีมกันแดดที่บางเบามากๆ เนื้อเซรั่มเกลี่ยง่าย เวลาลูบไล้ที่ผิวจะเป็นเนื้อน้ำ ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิว เป็นกันแดดที่เราทาแล้วไม่ทำให้ผิวขาววอก ไม่เป็นคราบขาวๆ หรือติดกับเส้นขน เพราะเนื้อครีมจะซึมซาบหายไปกับผิวเลยอย่างต่อมาคือประทับใจเรื่องกลิ่นค่ะ เป็นการทาครีมกันแดดที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังทาครีมบำรุงผิวของนีเวียมากกว่า ไม่มีกลิ่นครีมกันแดดแรงๆ เลย ทำให้ทาได้เป็นประจำทุกวันสำหรับประสิทธิภาพการกันแดดถือว่าผ่านค่ะ เราจะทาทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน จะไม่รู้สึกว่าแสบร้อนผิวจากการโดนแดดแรงๆ กลับมาถึงบ้านผิวก็ยังคงปกติอยู่ ไม่หมองคล้ำขึ้น เราเป็นคนนึงที่ชอบใช้เวลาว่างในการไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือร้านกาแฟชิคๆ รวมถึงชอบถ่ายรูปอัพลง facebook instagram แดดจะร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น เพราะแสงแดดนั้นทำให้รูปถ่ายของเราสวยและดูมีชีวิตชีวา ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยผ่านประสบการณ์ผิวตัวคล้ำเสียเพราะใส่เสื้อแขนสั้นบ้าง เสื้อปาดไหล่บ้าง จนกลายเป็นผิวลาเต้ แต่ก็ไม่สามารถหยุดไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวของเราได้ ตั้งแต่หันมาใช้ครีมกันแดดทาตัวเนื้อเซรั่ม NIVEA SUN DAILY PROTECT Whitening sun body serum SPF50 PA+++ ถือว่าช่วยได้มากเลยทีเดียวค่ะ เหมาะกับคนที่มองหาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพดี เนื้อบางเบาไม่เหนอะผิว เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่ขาววอก ไม่เป็นคราบติดเสื้อผ้า และที่สำคัญมีกลิ่นหอมด้วยค่ะ เมื่อใช้เป็นประจำจะรู้สึกได้ว่าผิวที่คล้ำเสียดูจางลง มีสีผิวที่สม่ำเสมอมากขึ้น สามารถอัพรูปโชว์ผิวสวยได้ในทุกที่ทุกเวลา

เกิดมาเป็นสาวผิวมันนี่ลำบากสุดๆ เลยน้าาาา.. เพื่อนๆ ว่ามั้ย?? แต่งหน้าสวยเป๊ะตอนเช้า พอสายหน่อยเริ่มออกอาการหน้ามันมาแล้วจ้า ตกบ่ายไม่ต้องพูดถึง หน้านี่มันเยิ้มเหมือนกะทะทอดไข่ เครื่องสำอางที่แต่งๆ ไปก็ไม่ติดทนเอาซะเลย >< ทำให้เราต้องคอยเสาะหาไอเท็มที่ช่วยชีวิตอย่างเครื่องสำอางควบคุมความมัน อันไหนเคลมว่าคุมมันต้องสอยมาลองใช้ ดีบ้างพังบ้างแต่ก็ไม่ย่อท้อ ตอนนี้เรากำลังอินกับการใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสง เนื้อนุ่มละเอียดบางเบา ที่รวม 2 เฉดสีไว้ด้วยกัน นั่นก็คือ De Leaf Thanaka Duo Translucent Loose Powder ที่มีคุณสมบัติในการทำให้ผิวดูเนียนกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ควบคุมความมันได้ตลอดทั้งวัน ที่สำคัญคือเหมาะกับทุกสีผิวและยังอ่อนโยนกับทุกสภาพผิวด้วยค่ะ ความแจ่มจะแดมแจ่มว้าวของแป้งตัวนี้คือ มี 2 สี ใน 1 กระปุกYellow Powder แป้งโทนเหลือง สารสกัดจากทานาคา เนื้อแป้งโปร่งแสง ละเอียด บางเบา ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ให้ผิวแลดูเนียน สวย ปกปิดผิวคล้ำเสีย และรอยหมองคล้ำได้อย่างเป็นธรรมชาติPink Pearl Powder แป้งโทนชมพู สารสกัดจากทับทิม และชิมเมอร์ ที่ช่วยมอบความเปล่งประกายมีมิติให้กับใบหน้า สามารถใช้ปัดบางเบาเพื่อให้ผิวดูอมชมพูอย่างเป็นธรรมชาติ แพคเกจ : ดูดีตั้งแต่กล่องที่ใส่มาเลยค่ะ ออกแบบเป็นสีขาวเขียว ให้ความรู้สึกประมาณว่าดีต่อผิว อ่อนโยนๆ ธรรมชาติๆ เปิดมาด้านในกล่องก็จะพบกับกระปุกแป้ง ออกแบบมาสวยงามน่าใช้มากๆ เป็นกระปุกพลาสติกที่มีความแข็งแรง ทนทาน ฝาสีน้ำตาลทองๆ สวยหรูดูแพง หยิบขึ้นมาก็รู้สึกสวยไปหนึ่งระดับ ตัวกระปุกเป็นแบบใส สามารถมองเห็นแป้งข้างในได้ แบ่งออกเป็น 2 ช่อง สำหรับเนื้อแป้ง2 สี ไอเดียนี้ดีมากอะ เพราะเราสามารถเลือกว่าจะทาแป้งสีไหนแล้วหมุนๆ ตรงฝาด้านในให้รูเล็กๆ ตรงกับแป้งที่เราต้องการ พัฟที่ให้มาก็เป็นพัฟนุ่มๆ กำมะหยี่สำหรับการทาแป้งฝุ่น นุ่มกำลังดี ปริมาณ 15 กรัมราคา 270 บาท เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อแป้งทั้ง 2 สี มีความเนียนละเอียด เนื้อนุ่ม บางเบา เวลาทาไปบนผิวจะไม่รู้สึกหนาหนัก ไม่ตกร่องรูขุมขน ไม่เป็นคราบ ความรู้สึกหลังใช้วันไหนอยากได้ผิวเนียนสวย ปกปิดรอยและความหมองคล้ำและควบคุมความมันเราก็จะหมุนใช้ด้านที่เป็นเนื้อแป้งสีเหลือง รู้สึกว่าเข้ากับสีผิวได้อย่างดี ดูกลมกลืน ไม่วอกไม่ลอย ช่วยให้หน้าดูเนียนๆ ละมุนๆวันไหนอยากให้ผิวสวยใสอมชมพูเป็นธรรมชาติเราก็จะก็หมุนใช้ด้านที่เป็นเนื้อแป้งสีชมพู ตัวนี้จะช่วยให้หน้าดูไบรท์ขึ้นมานิดนึง แต่ก็ไม่วอกไม่ลอยนะคะหรือบางทีขี้เกียจ รักพี่เสียดายน้องสองจิตสองใจก็ใช้ทั้ง 2 สีพร้อมกันเลยค่าาาาา.. ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป การควบคุมความมันสำหรับเราที่เป็นมนุษย์ผิวมันไปทุกวันทั้งปี สิ่งนี้ถือว่าตอบโจทย์นะคะ ถึงแม้จะไม่ได้ควบคุมความมันติดทนแน่นกริบไปตลอดทั้งวันขนาดนั้น แต่อยู่รอดมาถึงบ่ายแล้วมีความมันแค่บริเวณทีโซนก็ถือว่าพอใจแล้วค่ะ จากปกติที่ต้องหน้าเป็นกะทะทอดไข่ เพราะฉะนั้นถือว่าผ่านค่ะ

วันนี้เราจะมาลองของใหม่จากนีเวียกันค่า นั่นก็คือ นีเวีย ไมเซลแอร์ เอ็กซ์เพิร์ท ไมเซล่า วอเตอร์  NIVEA Micellair Expert Micellar Water  คลีนซิ่งสูตรใหม่ที่เคลมมาว่า เหนือกว่าลบเมคอัพ คือลบซากซิลิโคนเกลี้ยง ซึ่งหมาะกับคนที่แต่งหน้าทุกวันอย่างเรามากๆ เพราะเครื่องสำอางที่เราใช้จะต้องเน้นให้ติดทนไว้ก่อน เพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ ซึ่งครื่องสำอางที่ติดทนแน่นตลอดทั้งวันก็ล้างออกยากมากๆ และการเช็ดล้างเครื่องสำอางไม่สะอาดอาจจะทำให้ผิวอุดตัน เป็นสิวได้ง่าย เอาล่ะไหนๆ ก็ได้รับผลิตภัณฑ์ทดลองใช้มาจากทางเว็บแล้ว เรามาดูกันค่ะว่าจะเช็ดเครื่องสำอางได้ดีแค่ไหนกัน นีเวีย ไมเซลแอร์ เอ็กซ์เพิร์ท ไมเซล่า วอเตอร์  NIVEA Micellair Expert Micellar Water คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางสูตรพิเศษ ทำความสะอาดหมดจดแม้คราบเครื่องสำอางติดทน หรือพวกซิลิโคนตกค้างจากเครื่องสำอางที่มองเห็นออก 100% เช็ดสะอาดไม่ทิ้งคราบมันให้เหนอะผิว -ไมเซลแอร์ คอมเพล็กซ์ ทำหน้าที่เหมือนแม่เหล็กที่ดูจับเครื่องสำอางออกหมดจดโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง -ผสานสารสกัดแบล็คที ที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ช่วยลดการเกิดริ้วรอยจากแสงแดด เพิ่มความสดชื่นให้ผิว -สารสกัดบิลเบอร์รี่ ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส  แพคเกจ : มาในรูปแบบขวด เป็นฝาหมุดเปิด-ปิด ขนาดกระทัดรัดเหมาะสำหรับพกพาเดินทางมากๆ สีของแพคเกจเป็นสีดำ ซึ่งต่างจากสูตรอื่นๆ ที่เป็นขวดใส ปริมาณ : 125 มิลลิลิตรราคา : 129 บาท เนื้อผลิตภัณฑ์ : ตัวนี้จะมีส่วนผสมเป็นเนื้อน้ำกับน้ำมันนะคะ เวลาใช้ต้องเขย่าให้ผสมกันเป็นเนื้อเดียว เทออกมาเป็นน้ำใสๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ สไตล์คลีนซิ่งของนีเวีย ไม่ฉุน วิธีใช้ : เขย่าให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วค่อยๆ เช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าออกเบาๆ  ความรู้สึกหลังใช้ : ตอนแรกที่เห็นว่าเป็นเนื้อน้ำและน้ำมันแยกชั้นกันเราแอบคิดว่าจะทำให้หน้ามันหรือเปล่า พอเขย่าๆ ขวดแล้วเทใส่สำลี ปรากฏว่าเป็นน้ำและบางเบามากๆ กลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุน แค่เช็ดเบาๆ ก็สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางได้สะอาดหมดจดทั่วใบหน้า เครื่องสำอางที่ติดทน ล้างออกยาก ตัวนี้ก็เอาอยู่ เรียกว่าขวดเดียวจบ ถึงแม้จะมีส่วนผสมที่เป็นน้ำมันก็ไม่ทิ้งความมันบนผิว และที่สำคัญไม่รู้สึกว่าผิวแห้งตึง สัมผัสดูจะรู้สึกได้ว่าผิวยังคงความชุ่มชื้นอยู่ สำหรับเราถือว่า NIVEA Micellair Expert Micellar Water เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ครบทั้งใบหน้า ตา และปาก โดยไม่ต้องมีหลายขวดหลายสูตรสำหรับเช็ดเฉพาะจุดให้ยุ่งยากและสิ้นเปลืองเงินอีกต่อไป และที่สำคัญยังอ่อนโยนต่อผิวมากๆ ด้วย ขนาดขวดก็กระทัดรัด สามารถพกพาไปได้ทุกที่ สูตรใหม่และดีต่อใจจริงๆ

เป็นครั้งแรกที่เราได้ลองใช้ครีมอาบน้ำเนื้อโลชั่น NAMU LIFE SNAILWHITE CRÈME BODY WASH สีชมพู สูตร AROMA RASHALL ROSE ผ่อนคลายความตึงเครียด ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น เต่งตึง โดยได้รับผลิตภัณฑ์ทดลองใช้จาก cosmenet หลังจากใช้ไปประมาณสองสัปดาห์ เลยถือโอกาสมารีวิวบอกเล่าความรู้สึกหลังใช้ค่ะ สำหรับครีมอาบน้ำตัวนี้มีความพิเศษคือ มีสารสกัดจากดอกกุหลาบ ช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำความสะอาดผิวกาย ให้ผิวแลดูกระจ่างใสสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติพร้อมช่วยปกป้องผิวจากแบคทีเรีย ล้างออกง่าย ผิวไม่แห้งตึง วิธีการใช้ : กดครีมอาบน้ำ SNAILWHITE Crème Body Wash ลงบนฝ่ามือ นวดเนื้อครีมให้เกิดฟอง ก่อนลูบไล้ทั่วผิวกาย และล้างออกด้วยน้ำสะอาด แพคเกจ : เป็นขวดปั้มขนาดใหญ่ 500 มิลลิลิตร ขวดพลาสติกสีขาว เป็นแบบฝาปั้ม มีความทนทาน สามารถกดใช้ได้ง่าย เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมอาบน้ำสีขาว เนื้อนุ่ม เวลาลูบไล้ที่ผิวจะให้สัมผัสที่นุ่มละมุน มีกลิ่นหอมกุหลาบ หอมกำลังดี ความรู้สึกหลังใช้เนื้อครีมอาบน้ำมีความนุ่ม เวลาอาบน้ำแล้วลูบไล้ที่ผิวจะให้ความรู้สึกนุ่มเหมือนเนื้อน้ำนม ไม่ลื่นจนเกินไป รู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้น ถ้าใช้มือถูจะได้ฟองครีมกำลังดี แต่ถ้าใช้กับตาข่ายขัดผิวจะตีฟองได้เยอะมากๆ และที่สำคัญล้างออกง่ายมากๆ และผิวหลังอาบน้ำมีความชุ่มชื่นและกลิ่นหอมจากกุหลาบ

สาวๆ หลายคนคงเคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างความดีเด่นของเซรั่ม VitC จาก Oriental Princess กันมาบ้าง ถือว่าเป็นไอเทมเด่นดังของแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้ สาวๆ หลายคนต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะช่วยให้ผิวกระจ่างใสสุดๆ ซึ่งสินค้าในไลน์นี้ก็มีเยอะแยะมากมาย ทั้งล้างหน้า โทนเนอร์ เซรั่ม ครีม หรืออายครีม ช่วงนี้เรากำลังใช้ Natural Power C Miracle Brightening Complex Advanced Brightening Serum with 100% Pure Vitamin C 10% อยู่ค่ะ ขอบอกว่าปลื้มสุดๆ สำหรับ Natural Power C Miracle Brightening Complex Advanced Brightening Serum with 100% Pure Vitamin C 10% เขาบอกว่าเป็นเซรั่มเข้มข้น นวัตกรรมคุณค่าอนุพันธ์วิตามินซีแท้บริสุทธิ์ 100% ปรับผิวให้กระจ่างใสได้ทุกสีผิวใน 1 สัปดาห์ โดยไม่ระคายเคืองผิว ปรับสภาพผิวเสียหมองคล้ำจากแสงแดด ให้สีผิวดูสม่ำเสมอจุดด่างดำ กระ และรอยดำจากสิวดูลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังสามารถป้องกันการเกิดสีผิวคล้ำในอนาคต เพียงคืนแรกของการใช้ผิวจะเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้นเมื่อผิวได้รับการฟื้นบำรุงอย่างต่อเนื่่องจุดด่างดำและรอยหมองคล้ำเล็กๆ จะดูจางลง สีผิวดูสม่ำเสมอทั้งใบหน้า แค่อ่านรายละเอียดก็รู้สึกอยากลองใช้มากๆ แถมยังมีส่วยผสมของ Prime C Complex™ สารสกัดลิขสิทธิ์เฉพาะจาก Oriental Princess วิตามิน C เข้มข้น สามารถรีไซเคิล ประจุวิตามินซีให้กลับมาทำงานได้ใหม่ เมื่อหมดพลัง อ่อนโยนด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ผิวกระจ่างใสใน 1 สัปดาห์ ทุกโทนผิวจุดด่างดำลดเลือนลงรู้สึกผิวเนียนเรียบตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ เรามาลองใช้แล้วก็ดูความรู้สึกหลังใช้กันค่ะ แพคเกจเซรั่มวิตซีมาในขวดปั้มที่สามารถหมุนเปิดปิดเองได้ ไม่ต้องกังวลว่าฝาจะหาย จะสกปรกเลอะเทอะ อันนี้ถือว่าออกแบบมาดีและล้ำมากๆ แพคเกจสีส้มตามสไตล์ของวิตามินซี ออกแบบสวยงาม ทันสมัย และมีความแข็งแรงทนทานไม่ก๊องแก๊ง พกพาสะดวก ปริมาณ 30 มิลิลลิตรราคา 890 บาท เนื้อผลิตภัณฑ์เนื้อเซรั่มสีใส เนื้อมีความเข้มข้น ไม่เหลว พอทาแล้วรู้สึกถึงความเข้มข้นและนุ่มลื่น เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว และยังคงความชุ่มชื่นให้ผิว ไม่เหนอะหนะหรือหนาหนักผิว แต่งหน้าต่อได้ไม่เป็นคราบ วิธีใช้ทาเซรั่มให้ทั่วใบหน้าและลำคอที่สะอาด ใช้ทาเป็นตัวแรกก่อนการทาบำรุงตัวอื่น ทั้งกลางวันและกลางคืน สภาพผิวเราเป็นคนผิวมัน บริเวณทีโซนจะมันมากเป็นพิเศษ รูขุมขนกว้างบริเวณข้างแก้ม มีสิว และรอยแดงรอยดำจากสิว ความรู้สึกหลังใช้เนื้อเซรั่มมีความเข้มข้น แต่บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซางไว ให้ความชุมชื่นกับผิว ไม่หนักผิว สามารถ ทาครีมและแต่งหน้าต่อได้ไม่เป็นคราบ หลังใช้ไปประมาณ 1 สัปดาห์ รู้สึกได้ว่าผิวได้รับการบำรุงมากขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวหน้าอิ่มเด้งไม่อ่อนล้าถึงแม้ว่าจะนอนดึก หน้ากระจ่างใสขึ้น รอยแดงจากสิวลดลง รอยดำจากสิวค่อยๆ จางลง ขอยกให้เซรั่มวิตซีตัวนี้เป็นไอเทมเด่นดังสามัญประจำบ้านอีกตัวค่ะ ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใสได้ดีมากๆ สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ผิวหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส ลองมาใช้ตัวนี้ค่ะ แล้วจะติดใจเหมือนเราและใครๆ อีกหลายคน

ใครมีปัญหาผิวหน้า จุดดำ กระ ฝ้า คอยกวนใจ เชิญมามุงทางนี้จ้า เรามีผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวที่เป็นฝ้ามาแชร์ให้เพื่อนๆ รู้จัก ซึ่งตัวนี้เคลมว่าเห็นผลใน 3 สัปดาห์ นั่นก็คือ Concept Anti-Melasma Cream ที่ยืนยันประสิทธิภาพโดยแพทย์ผิวหนังจากสถาบัน Spin Control Asia มั่นใจได้ว่าปลอดภัย และที่สำคัญยังผลิตด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่ทำให้ผิวหน้าบาง ไม่ทำร้ายผิว และไม่มีผลข้างเคียงอีกด้วยโยนครีมทาฝ้าอันตรายแบบเก่าๆ ทิ้งไป แล้วมาเริ่มต้นดูแลผิวหน้าใหม่กันค่ะ คุณสมบัติโดดเด่น- ยืนยันประสิทธิภาพโดยแพทย์ผิวหนังจากสถาบัน SpinControl Asia- เพียง 3 สัปดาห์ ฝ้าดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด- ผลิตด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ- ไม่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน สารปรอท และกรดเรทิโนอิก- ไม่ทำให้หน้าบาง ไม่ทำร้ายผิว- เมื่อฝ้าหาย สามารถหยุดใช้ได้ทันทีไม่มีผลข้างเคียง ส่วนประกอบที่ดีต่อใจ- Alpha-Arbutin ช่วยให้ฝ้าและจุดด่างดำ แลดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ- Vitamin B3, Licorice Extract , Pea Seed Extract , Octadecenedioic Acid เป็น Multi Whitening ช่วยให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใส เผยผิวใสเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ- Vitamin E, Aloe Vera Powder, Cogongrass Extract ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว อ่านคุณสมบัติไปแล้ว เรามาลองใช้กันค่ะ แพคเกจConcept Anti-Melasma Cream มาในรูปแบบหลอดบีบสีขาว-แดง ฝาหมุนเปิด-ปิด ใช้งานสะดวก หลอดบีบง่าย ขนาดหลอดครีมกำลังดี วางบนโต๊ะแล้วไม่เปลืองพื้นที่ สามารถพกพาในกระเป๋าเครื่องสำอางเวลาเดินทางได้ ปริมาณ 24 กรัมราคา 450 บาทเมื่อเทียบปริมาณกับราคาแล้วเราถือว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะ หนึ่งหลอดสามารถใช้ได้นานมาก เพราะบีบมาใช้แค่นิดเดียว ทาบางๆ บริเวณที่มีปัญหาผิวรอยดำ กระ ฝ้า เนื้อผลิตภัณฑ์เนื้อครีมมีสีขาว ลักษณะเป็นเนื้อครีมบางเบา มีกลิ่นอ่อนๆ คล้ายกลิ่นยา แต่ถ้าไม่โฟกัสหรือดมใกล้มากๆ ก็ไม่ค่อยได้กลิ่นนะคะ ทาแล้วเกลี่ยง่ายมาก เหมือนทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวทั่วไป ซึบซาบไว พอทาไปสักพักกลิ่นก็จางหายไป สามารถทาครีมกันแดดและแต่งหน้าต่อได้ทันที ไม่ทิ้งความเหนอะหนะหรือจับตัวเป็นคราบเวลาแต่งหน้า วิธีใช้-ทาครีมบาง ๆ บริเวณที่เป็นฝ้า ตอนเช้าและก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน-หากใช้ครีมทาฝ้าจากแบรนด์อื่นให้หยุดใช้ 1 สัปดาห์ก่อน แล้วค่อยใช้ครีมทาฝ้าตัวนี้ สภาพผิวหน้าก่อนใช้เนื่องจากเราเป็นคนที่ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ จึงไม่ค่อยมีปัญหาฝ้ามากนัก แต่ก็ยังมีกวนใจอยู่บ้าง บริเวณโหนกแก้มที่โดนแดดเป็นประจำ แม้แต่กันแดดก็เอาไม่อยู่ จะเห็นเป็นรอยฝ้าจางๆ จุดเล็กๆ อยู่บริเวณนั้น ต้องคอยแต่งหน้าทาแป้งเน้นๆ เพื่อปกปิดตลอด นอกจากนี้ยังมีรอยดำจากสิวที่ยังไม่จางหายไปสักทีบริเวณแก้ม ความรู้สึกเมื่อทาด้วย Concept Anti-Melasma Creamเนื้อครีมมีความบางเบา ทาแล้วเกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะหนะผิว ทำให้ทาครีมอื่นๆ และแต่งหน้าต่อได้ทันที ผลลัพธ์หลังใช้หลังจากใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลาราวๆ 3 สัปดาห์ รอยฝ้าที่เป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ บริเวณโหนกแก้มดูจางลง รอยดำจากสิวที่ข้างแก้มจางลง ความประทับใจอย่างแรกที่เราชื่นชอบครีมทาฝ้าของ Concept Anti-Melasma Cream ก็คือสามารถทาได้ทั้งเช้าและเย็น จะเห็นว่าครีมทาฝ้าต่างๆ ถูกบ้างแพงบ้าง ทั้งที่ปลอดภัยและวางขายตามตลาด ส่วนใหญ่มักจะให้ทาก่อนนอน ทาปุ๊บปิดไฟปั๊บ ไม่ให้โดนแสงกันเลยทีเดียว นั่นคงเป็นเพราะมีส่วนผสมที่ไวต่อแสง หรือส่วนผสมที่ค่อนข้างแรง ต้องทาก่อนนอนเท่านั้น แต่ตัวนี้สามารถทาได้ทั้งเช้าและเย็น มีความอ่อนโยนเพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ และยังบำรุงผิวไปในตัวอีกด้วยพอได้ใช้ก็รู้สึกว่าเนื้อครีมบางเบา ทาง่าย เกลี่ยง่ายและซึมซาบไวเหมือนมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ทั่วไป ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ ความมัน หรือเป็นคราบ อาจจะติดนิดหน่อยตรงกลิ่นที่เหมือนกลิ่นยา แต่ก็ไม่ถึงกับกลิ่นฉุนมากจนรับไม่ได้ พอทาไปสักพักกลิ่นก็จางหายไป ถ้ากลิ่นอ่อนกว่านี้อีกนิดนึงจะเลิฟมากหลังจากใช้ไปราว 3 สัปดาห์ สังเกตว่ารอยฝ้าและรอยดำจากสิวดูจางลง อาจจะจางลงไม่เยอะหรือหายวับไปกับตา ก็ต้องเข้าใจว่าค่อยเป็นค่อยไปเนอะ เพราะการรักษาผิวหน้าต้องใช้ระยะเวลาและการบำรุงที่ต่อเนื่อง อย่างน้อยเราก็รักษาด้วยผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจได้เรื่องความปลอดภัย ดีกว่าใช้ครีมที่เห็นผลไวแล้วหน้าพังทีหลังเด้อ มัวรักษาอย่างเดียวแต่ลืมป้องกันก็ไม่ได้นะคะ สาวๆ ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพราะแดดเมืองไทยร้อนมากเว่อร์แถมยังมีรังสีต่างๆ ที่ทำร้ายผิว ให้เป็นฝ้าหน้าหมอง หมดความมั่นใจกันพอดี และที่สำคัญเวลาเลือกครีมกันแดดหรือครีมทาฝ้าต้องใส่ใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหน้านะคะสำหรับใครที่อยากลองใช้ Concept Anti-Melasma Cream สามารถไปซื้อมาลองใช้ได้นะคะ มีทั้งหลอดเล็ก 12 กรัม และหลอดใหญ่ 24 กรัม หาซื้อได้ตามร้านขายยา วัตสัน หรือซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ก็ได้ค่ะ จะได้บอกลาผิวฝ้า เดินสวยหน้าใส มั่นใจไม่กลัวแดดกัน