8 รองพื้นเนื้อบางเบา ได้งานผิวเล่นแสง คุมมัน ไม่หยาไม่อุดตัน
สาระน่ารู้

คู่มือคำศัพท์ Exercise สำหรับมือใหม่ เลือกออกกำลังกายอย่างไรให้ถูกวิธี

15,095
26 ต.ค. 2561
วิธีผอม

    ในยุค Healthy ที่หันไปทางไหนคนก็หมั่นออกกำลังกาย เข้าฟิตเนส กินคลีนกันมากขึ้น คุณเองก็เป็นหนึ่งในนั้นใช่ไหมล่ะ ที่อยากจะหันมาใส่ใจกับสุขภาพของตัวเองบ้าง แต่สำหรับใครที่กำลังมือใหม่ก็คงจะงง ๆ กับคำศัพท์เฉพาะในเรื่องการออกกำลังกาย ไหนจะเวท ไหนจะคาร์ดิโอ แต่ละคำมีความหมายเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายอย่างไร? ไม่เข้าใจว่ามันส่งผลต่อร่างกายยังไงขนาดไหน? แล้วเหมาะกับใครบ้าง? เห็นคำศัพท์แค่นี้อย่าเพิ่งท้อ มาสิมา จะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ตรงนี้เลย

Cardio หัวใจแข็งแรง

คาร์ดิโอ cardio

    น่าจะได้ยินกันบ่อยที่สุดแล้วเวลาที่ใครสักคนลุกขึ้นมาออกกำลังกายเพื่อให้เผาผลาญพลังงาน แต่คาร์ดิโอไม่ใช่การเผาผลาญที่มากที่สุด แต่เป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยให้หัวใจของเราแข็งแรง ปอดสามารถนำออกซิเจนมาใช้ได้มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้การสูบฉีดเลือดเป็นไปได้ดี ช่วยลดความดันโลหิต และร่างกายเบิร์นพลังได้ดี การเผาผลาญมีประสิทธิภาพ น้ำหนักก็ลด ไขมันก็หาย

    โดยคาร์ดิโอจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ แบ่งตามความรุนแรงจากการกระทบของร่างกายขณะออกกำลังกาย
  • Lower Impact Cardio Exercise เป็นแบบที่กระทบไม่หนัก ไม่ส่งผลต่อพวกข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย ได้แก่ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เดิน พายเรือ เครื่องปั่นจักรยานแบบท่อนบน เดินแบบวงรี (Elliptical Trainer)
  • Higher Impact Cardio Exercise เป็นการออกกำลังกายแบบแรงกระทบสูงขึ้น คือ วิ่ง กระโดดเชือก แอโรบิก รวมถึงท่าออกกำลังกายพื้นฐานที่หนัก ๆ หน่อย

เกร็ดความรู้ เรื่อง Cardio

  • เวลาที่เหมาะสมสำหรับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ สมาคมหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำว่า ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 -45 นาทีต่อวัน
  • อันตรายก็มีนะ สำหรับคนที่ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างเอาเป็นเอาตาย คือฉันจะผอม ยิ่งออกมากยิ่งผอมไวมากใช่ไหม แต่จริงแล้วเคยพบว่าส่งผลให้หัวใจเสียหายเช่นกัน อย่างที่เคยมีคนหัวใจวายเสียชีวิตคาลู่วิ่งนั่นแหละ เพราะฉะนั้นต้องระวัง ทุกอย่างต้องอยู่บนความพอดี
คาร์ดิโอ cardio

Fat burn ออกกำลังกายสลายไขมัน

สลายไขมัน fat burn

    ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยทั่วไปในระดับปกติ ร่างกายของเราจะดึงเอาคาร์โบไฮเดรตมาใช้เป็นพลังงานก่อน แล้วจึงนำไขมันมาใช้ตามมา คนที่อยากลดไขมันจึงต้องออกกำลังกายแตกต่างจากคนที่อยากลดแป้ง ลดน้ำหนักธรรมดา แต่ร่างกายของเราจะเอาไขมันออกมาเผาผลาญได้นั้นต้องมีออกซิเจนมาช่วยในการเผาผลาญด้วย

    Low-Intensity การออกกำลังกายที่ช่วยให้ร่างกายนำออกซิเจนเข้ามาช่วยร่างกายเผาผลาญไขมัน การออกกำลังกายแบบนี้ คือ การวิ่ง ปั่นจักรยาน การเดินเร็ว รวมถึงการเดินป่า ทั้งหมดนี้คือการออกกำลังกายแบบไม่ต้องรุนแรงมาก แต่ยาวนานหน่อย ไปช้า ๆ แต่ให้เวลากับตัวเองเพื่อเอาไขมันออกจากร่างกาย ก็เดิน วิ่ง ปั่น กันให้นานขึ้นหน่อย

เกร็ดความรู้ เรื่อง Low-Intensity

  • วิ่งช้า ๆ เน้นระยะเวลานาน สามารถเผาผลาญไขมันได้ดีไปจนถึง 2-3 ชม. หลังจบการวิ่ง (After burn)
  • ดังนั้น การออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ กับ Fat burn จึงต่างกันตรงที่ถ้าเราจะเอาไขมันออกไปเราก็ต้องไปช้าๆหน่อยและนานกว่าคาร์ดิโอ 
  • ค่าความต่างของ MHR 60-70% MHR จะอยู่ในโซน fat-burn ส่วน Cardio คือ 70-90% 
สลายไขมัน fat burn

Aerobic & Anaerobic การออกกำลังกายแบบใช้และไม่ใช้ "ออกซิเจน"

แอโรบิค aerobic anaerobic

  • Aerobic Exercise ไม่ใช่แค่การเต้นอย่างเดียวนะเออ แต่หมายถึงการออกกำลังกายเบา ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น วิ่งเหยาะ ๆ วิ่งทางไกล ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน โดดเชือก รวมถึงการเต้นแอโรบิคด้วย เป็นการออกกำลังที่ต้องใช้ออกซิเจนเป็นจำนวนมากในการนำมาสร้างพลังงาน ยกตัวอย่างเช่น การวิ่งมาราธอนที่ยิ่งวิ่งทางไกลมากเท่าไหร่เราก็จะรู้สึกเหนื่อยมากจนต้องหายใจทางปาก ซึ่งการออกกำลังกายประเภทนี้ช่วยให้สามารถเผาผลาญพลังงานได้ทั้งคาร์โบไฮเดรตและไขมัน เป็นการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่ควรทำเป็นประจำ เพราะจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
  • Anaerobic Exercise เป็นการออกกำลังกายแบบไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งจะตรงข้ามกันกับแอโรบิคนั่นเอง เป็นการออกกำลังกายหนัก ๆ ที่เมื่อถึงจุดที่ร่างกายเหนื่อยมาก ๆ จนไม่สามารถหายใจได้ไหว ต้องกลั้นหายใจ ซึ่งเมื่อไม่มีออกซิเจน ร่างกายจะดึงเอาไกลโคเจนที่อยู่ในกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานแทน ส่งผลให้กล้ามเนื้อมีความเหนื่อยล้า แต่ถือเป็นการฝึกความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย พัฒนากล้ามเนื้อให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อออกกำลังกายในครั้งต่อไป การออกกำลังกายแบบอนาโรบิคได้แก่ วิ่งเร็ว ยกน้ำหนัก ปีนเขา

เกร็ดความรู้ เรื่อง Aerobic / Anaerobic Exercise

  • การออกกำลังกายแบบแอโรบิคให้ได้ผล จะต้องออกขั้นต่ำ 20 นาที ร่างกายจึงจะเริ่มนำไขมันมาใช้เป็นพลังงาน
  • การเบิร์นโดยแอโรบิคนั้นก็ขึ้นอยู่กับกีฬาแต่ละประเภทด้วย ซึ่งจะสามารถเบิร์นได้ประมาณไม่ต่ำกว่า 200 kcal สำหรับการออกกำลังกายในครึ่งชั่วโมง
  • อนาโรบิคเป็นการออกกำลังกายเพื่อกระชับกล้ามเนื้อ เสริมความแข็งแรงให้กับร่างกาย ข้อเสียคือจะทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ และเผาผลาญพลังงานได้ไม่มากนัก
แอโรบิค aerobic anaerobic

Body Weight ใช้แรงตัวเองเพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อ

บอดี้เวท body weight

    เป็นการออกกำลังกายที่ใช้น้ำหนักจากร่างกายของเราเองไปช่วยต้านการเคลื่อนไหว ทำให้สามารถสร้างกล้ามเนื้อได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วย เพราะเราต้องแบกน้ำหนักของเราเองแทนเครื่องมือต่าง ๆ (ยกเว้นบาร์โหนนะ) แต่กล้ามที่ได้ก็จะไม่ใช่กล้ามที่ใหญ่โตมากมายเท่ากับการใช้อุปกรณ์หรอกนะ จะได้กล้ามเนื้อที่กระชับแบบพอดี ๆ เฉย ๆ ดังนั้นใครที่ต้องการกล้ามใหญ่ฟิตปั๋งหน่อยก็ต้อง Weight Training ควบคู่ไปด้วย

ตัวอย่างบอดี้เวทแบบง่าย ๆ “กระโดดสควอท (Squat)”

  1. ยืนกางเท้า ความกว้างเท่ากับไหล่ของเรา 
  2. ปล่อยแขนไว้ข้างลำตัว หรือยกแขนยื่นไปข้างหน้าจะช่วยให้ทรงตัวได้ง่ายขึ้น 
  3. งอเข่าย่อตัวลงไป ให้ต้นขาขนานกับพื้น หลังตรง และเข่าต้องไม่เลยปลายเท้า จินตนาการว่าเหมือนเรากำลังจะนั่งเก้าอี้ 
  4. หลังจากนั้นให้กระโดดขึ้น นับเป็น 1 ครั้ง 
      ทำซ้ำเซตละ 15-24 ครั้ง จำนวน 2 เซต เมื่อทำร่วมกับท่าอื่นๆ ครึ่งชั่วโมงจะเบิร์นได้ประมาณ 200 kcal

High Intensity Interval Training ออกสั้น แต่ผลาญยาว

HIIT high intensity interval training

    HIIT เป็นการออกกำลังกายที่สามารถเผาผลาญไขมันได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่เหมาะกับคนที่มีร่างกายแข็งแรงเท่านั้นเพราะเป็นการออกกำลังกายที่หนักมาก ออกกำลังกาย HIIT เสร็จแล้วคือต้องพักฟื้นกันถึง 48 ชั่วโมง ซึ่งการออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญต่อไปหลังจากจบการออกกำลังกายไปแล้วอีกด้วย

เกร็ดความรู้ เรื่อง HIIT

  • สูตร 2:1 ออกกำลังกายให้สุด ๆ 40 วินาที หยุด 20 วินาที ทำซ้ำ 10-20 เซต
  • เราสามารถนำการออกกำลังกายแบบ HIIT ไปใช้ได้กับกีฬาหลายประเภท เช่น การปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือสควอท HIIT จะช่วยให้เราเผาผลาญได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ก็ลุกขึ้นมาทำ ร่างกายต้องพร้อมด้วยนะคะ เพราะเป็นการออกกำลังกายหนัก ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ
HIIT high intensity interval training

เบิร์นได้เท่าไหร่? วัดจากค่า MaxHR (MHR) หรืออัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดต่อนาที


    MaxHR (Max Heart Rate) คือ ค่าการเต้นของหัวใจสูงสุด มีไว้เพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการฝึกซ้อมการออกกำลังกาย ว่าเราควรออกกำลังกายให้ถึงค่า MHR เท่าไหร่ ร่างกายจึงจะเผาผลาญพลังงานได้สูงสุดอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถกะความแรงในการออกกำลังกายได้ ก็คือไม่ให้เราเผลอออกกำลังกายเบาเกินไปนั่นเอง นึกดู ถ้าเราวิ่งเบามาก ๆ ก็อาจจะเผาผลาญได้น้อยกว่าที่เราตั้งใจไว้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ายิ่งออกกำลังกายจนค่า MHR สูง ๆ จะหมายถึงยิ่งเผาผผลาญพลังงานได้เยอะนะ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนและประเภทการออกกำลังกาย

สูตรMaxHR = 220 - อายุ >

    เช่น ถ้าเราอายุ 30 ปี ก็จะมี MaxHR -> 220 - 30 = 190 เราควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอให้ได้ผลที่ 70% ของ MaxHR เมื่อ MaxHR ของเราคือ 190 ดังนั้น 70% ของ 190 คือ 133 ก็จะเป็น อัตราการเต้นของหัวใจต้องให้ได้ 133/นาที จึงจะเบิร์นได้สูงสุด

เหตุผลที่ Cardio ต้องมาคู่กับ Weight Training

cardio weight training

    มีคำแนะนำว่า ถ้าเราอยากจะออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ แต่ต้องเล่นเวทคู่ไปด้วยถึงจะได้ผลดี นั่นก็เพราะ

  • Weight Training จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้กับร่างกาย ซึ่งก็จะไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเมื่อเราออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนั่นเอง
  • Weight Training ช่วยเพิ่มมวลกระดูกและป้องกันการบาดเจ็บขณะออกกำลังกาย ซึ่งแน่นอนว่าดีต่อการออกกำลังกายในแบบอื่น ๆ และเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของเรา
  • Cardio ได้ดียิ่งขึ้น เพราะเราฝึกความอึดตั้งแต่ตอน Weight Training แล้ว
  • เมื่อ Weight Training แล้วกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ร่างกายก็จะเกิดการเผาผลาญได้ดีกว่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่ามันจะยิ่งช่วยให้เราประสบผลสำเร็จตามที่เราหวังเอาไว้จากการออกกำลังกายในครั้งนี้ นั่นก็คือน้ำหนักที่ลดลง สัดส่วนที่กระชับขึ้นนั่นเอง

    การออกกำลังกายทั้งหมดนี้ หากเสริมด้วยการควบคุมอาหาร แต่อย่าลืมว่าให้ทานในปริมาณที่ร่างกายต้องการ เพราะร่างกายจำเป็นต้องนำอาหารที่เรารับประทานนั้นไปใช้เป็นพลังงาน แต่ก็ต้องมีความเพียงพอไปพร้อม ๆ กับความพอดี นอกจากนี้ก่อนออกกำลังกายก็ควรดื่มน้ำ และมีการจิบน้ำระหว่างการออกกำลังกายแบบยาวนาน ดื่มเกลือแร่ช่วยบ้าง อย่าหักโหมเพียงเพื่อความผอม ให้คิดถึงสุขภาพที่จะดีขึ้นเรื่อย ๆ มาก่อนเลยจะดีกว่าค่ะ สู้ ๆ!!


การอดอาหารใช่ว่าจะเป็นการหักโหม กับวิธีอดอาหารเป็นช่วง ๆ เพื่อลดไขมันในร่างกาย
Intermittent Fasting หากมีวินัย ก็ปลอดภัย ไขมันลด
v
v


เรียบเรียงข้อมูลโดย : cosmenet.in.th

What's new
รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวันรีวิวมาสคาร่าขนตาพลุ ตัวใหม่จาก Maybelline ขนตาพุ่งกระจาย มีวอลลุ่มแบบ 360 องศาCute Press จัดเต็มคอลใหม่! "Wave Up Make Up" 40 ชิ้น จุกๆ แมทช์สนุกสุดทุกสีสัน!ป้ายยาลิควิดบลัชตัวใหม่จาก Gentle Colors เนื้อละมุน เบลนด์ง่าย สีชัดติดทนนานอาการชาปลายนิ้ว บอกอะไรได้บ้าง? สัญญาณจากปลายนิ้วที่ต้องรู้!8 รองพื้นเนื้อบางเบา ได้งานผิวเล่นแสง คุมมัน ไม่หยาไม่อุดตัน10 เจลล้างหน้า ผิวแพ้ง่าย ลดสิว ผิวสะอาดไม่ระคายเคือง หน้ามันก็ใช้ได้ดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 3 - 9 พ.ย. 67 (ทุกราศี) แชร์ทริคย้อมผมสีสว่างแบบไม่กัด ไม่ฟอก ทำง่ายไม่ต้องง้อร้านกิจกรรม :: ชวนทดลองใช้ กันแดด BSC Expert White Spot Protect Sunscreen เผยผิวหน้ากระจ่างใสพร้อมท้าแดด จำนวน 250 รางวัล
COMMENTS
10 ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ขอบคุณค่ะ
1 ม.ค. 2562 เวลา 14:20 น.
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณสาระดีๆ ค่ะ
17 พ.ย. 2561 เวลา 0:30 น.
ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุณค่ะที่ให้ข้อมูลดีๆ
11 พ.ย. 2561 เวลา 10:22 น.
ความคิดเห็นที่ 7
มีสาระมากค่ะ ขอบคุณคอนเทนต์ดีๆ
9 พ.ย. 2561 เวลา 9:30 น.
ความคิดเห็นที่ 6
ตอนนี้ลงพุงค่ะ ลดยากจริงๆ คงต้องตั้งใจออกกำลังกายแลว้ละ
6 พ.ย. 2561 เวลา 9:29 น.
ความคิดเห็นที่ 5
จะฮึดสู้อีกครั้ง ขอบคุณค่ะ
2 พ.ย. 2561 เวลา 13:04 น.
ความคิดเห็นที่ 4
thank u so much
1 พ.ย. 2561 เวลา 10:18 น.
ความคิดเห็นที่ 3
บทความมีประโยชน์มากค่ะ ขอบคุณค่ะ
1 พ.ย. 2561 เวลา 8:53 น.
ความคิดเห็นที่ 2
ดีค่ะ
31 ต.ค. 2561 เวลา 13:49 น.
ความคิดเห็นที่ 1
Thank you
29 ต.ค. 2561 เวลา 19:05 น.